![]() |
![]() |
มะขวิด![]() |
สุดท้ายความอยากรู้อยากลองก็กรุยทางสู่โลกแห่งมนตราของเกมออนไลน์นี้ เกมที่ต้องคิด ต้องคำนวน ต้องสร้างนู่นสร้างนี่ตลอดเวลา ต้องติดต่อกับเพื่อนบ้านเพื่อข้อได้เปรียบทางการค้าบางอย่างเท่าที่เกมจะสมมติให้เราเป็นได้ ต้องผจญอุปสรรคปัญหานานัปการ ตั้งแต่ เครื่องแฮงค์ เน็ทล่ม น้ำมันหมด หาอุปกรณ์ ขายของ เชิญเพื่อน และแจกของขวัญ จนการปลูกผักบนจอคอมพิวเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน
ด้วยเงินลงทุน(ปลอม ๆ)ไม่มาก อาศัยซื้อผลหมากรากไม้มาปลูก เอาของขวัญมาทำกำไร บำเพ็ญประโยชน์เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งไม่คาดฝัน สร้างนู่นสร้างนี่ไว้จนเต็มพื้นที่ ขยายพื้นที่ อัพเกรดไอเทมต่าง ๆ จนท้ายที่สุดฉันเหลือเงินเป็นหลักล้าน (แม้ว่าจะมีการใช้จ่ายไปเป็นหลักล้านด้วยก็ตาม) พร้อมไอเทมมากมายเต็มพื้นที่ เอ้อ....ของฉัน (เอาน่า... อย่างน้อยก็ต้องผ่านพาสเวิร์ดของฉันเข้ามาก่อนแหละ)
พืชผักที่ฉันปลูก มีชีวิต มันจะตายตามเวลาที่มันจะตาย ถ้าไม่ได้เก็บเกี่ยวจะสูญเปล่า ต้องเริ่มใหม่ เสียทั้งเงิน (สมมติ) และเวลา (จริง ๆ) ความกังวลใหม่ที่เกิดขึ้นปนเปกับความกังวลจริง ๆ ในชีวิตประจำวัน คือ กังวลว่าผักที่ปลูกจะเน่าเสียเพราะเลยอายุเก็บเกี่ยว แม้จะรู้ว่าเป็นแค่เกม แต่ก็ยอมไม่ได้เพราะอย่างไรก็ตาม นั่นคือทุนที่ใช้เงินในสกุลเงินของเกมที่ฉันมีมาจัดการทั้งหมด
ความหลงไหลได้ปลื้ม กลายเป็นอาการติดเกมอย่างอ่อน (ข้อแก้ตัว!!--ผู้เขียน) คือ ไม่ใช่ว่าขาดไม่ได้ แต่จะขัดใจเมื่อเข้าไปดูแลฟาร์มไม่ได้ ในทุก ๆ รอบของการเก็บเกี่ยวผลผลิตฉันจะต้องระเห็จมาอยู่หน้าคอมฯ ฉันต้องสร้างคอกวัว โรงเลี้ยงม้า เรือนอนุบาลสัตว์เล็ก โรงรถ โรงบ่มไวน์ สปา และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมไปถึงการบำเพ็ญประโยชน์กับไร่ของเพื่อน ๆ โดยการไปใส่ปุ๋ยและให้อาหารไก่ เหล่านี้ทำให้ฉันยุ่งอยู่กับงานในไร่มากพอที่จะทำให้สายตาอ่อนล้า ร้อนผะผ่าวบนใบหน้าด้วยคลื่นความร้อนที่ส่งมาจากจอคอมพิวเตอร์ แต่ฉันไม่ได้ใส่ใจกับอาการเหล่านั้นมากไปกว่าอาการเป็นห่วงว่าจะทำงานในไร่ไม่ทัน และน้ำมันหมด ก่อนงานจะเสร็จลง
คราหนึ่งฉันวางแผนการปลูกพืชแบบ crop rotation (การปลูกแบบหมุนเวียน) ซึ่งทำให้ฉันทำงานน้อยลงแต่รอบทำงานจะถี่ขึ้น ฉันปลูกแตงโมไว้ส่วนหนึ่ง (แตงโมมีระยะเก็บเกี่ยว 4 วัน) ปลูกพริก (2 วันเก็บ) และพืชอื่น ๆ อีก 2 ชนิด ที่ระยะเวลาการเก็บเกี่ยวลดหลั่นกันไป เป็นแผนการปลูกที่ยอดเยี่ยม ทำงานน้อย ได้เงินมาก ยังแบ่งเวลามาหาไอเทมเก๋ ๆ เก็บไว้ในไร่ได้อีก สุดยอดผู้จัดการฟาร์มเลยเชียว...
เป็นครานี้ที่งานในชีวิตจริงได้ฆ่าผลผลิตที่ฉันปลูกอย่างเลือดเย็นที่ละอย่าง ทีละอย่าง
วันนั้น ฉันจะเป็นจะตายเสียให้ได้ ใจพะวงอยู่กับคอมพิวเตอร์เมื่อถึงเวลาเก็บพริกที่ผ่านมาร่วมชั่วโมง แต่มิอาจเข้าไปจัดการได้ เพราะอยู่ไกลจากคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ฉันคิดถึงร้านอินเตอร์เน็ต ที่นั่นคงทำให้ฉันเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทัน ฉันคิดถึงโทรศัพท์มือถือที่มีแอพพลิเคชั่นนี้ให้เจ้าของได้ทำอะไรก็ได้ทันเวลาและนึกอิจฉาคนที่มีเงินสร้างเครื่องมือเหล่านั้น แต่ความเร่งรีบเรื่องการงานที่มีไม่บ่อยครั้งทำให้ฉันพลาดโอกาสจะเก็บเกี่ยวผลผลิต สุดท้าย พริกตายหมด ฉันหดหู่ งานที่ทำได้ก็แค่เพียงเข้าไปยกร่องเตรียมให้เพื่อนมาใส่ปุ๋ยไว้ แต่ไม่มีกะใจจะปลูกอะไรเพิ่ม ใจก็คิดว่า ขอเก็บแตงโมก่อนเหอะ เดี๋ยวค่อยหาอะไรที่กำไรดีมาปลูก
สองวันถัดมา ถึงเวลาเก็บแตงโม ฉันมีเวลาทั้งวันที่จะเข้าไปเก็บแตงโมเหล่านั้น ที่บางส่วนที่งามมากจากปุ๋ยที่เพื่อน ๆ ใส่ให้ แต่วันนั้นฉันประวิงเวลาตัวเองในการเก็บแตงโม ฉันเข้าไปอยู่ในเกม และดูแตงโมตายไปอย่างช้า ๆ โดยไม่ทำอะไรเลย เป็นช่วงเวลาที่หดหู่ ทรมาน เต็มไปด้วยการรอคอยและการพิจารณา ฉันหวนคิดถึงคนที่มีโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่นนี้ไว้ ความทรงจำหนึ่งผุดขึ้นมาในเชิงเปรียบเทียบว่า นั่นมันของเล่นเด็กสมัยก่อนที่เรียกว่า ทามาก็อตจิ เกมเลี้ยงสัตว์ดิจิตอลที่คอยเตือนให้เราให้อาหารและดูแลสัตว์ดิจิตอลให้ดี อย่าให้มันตาย
ฉันเคยเห็นบางคนร้องไห้ เมื่อสัตว์เลี้ยงดิจิตอลของเขาตาย !!!
ฟาร์มฉันยังอยู่ ฉันจัดการแตงโมเน่าทั้งหมด ยกร่องใหม่ และรอโอกาสที่จะปลูกผักใหม่มาขาย และโลดแล่นไปบนโลกแห่งการเกษตรบนจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง
วันเวลายังเดินไปข้างหน้า ฉันยังเข้ามาในไซเบอร์สเปซอย่างสม่ำเสมอ แซวคนโน้นคนนี้ในสังคมออนไลน์ คลิกเข้าไปในไร่เป็นบางครั้ง แต่เข้าไม่ถึงไร่ เพราะรำคาญความชักช้าตอนโหลดเกม ฉันยังเข้าไปเคลมของขวัญที่เพื่อน ๆ ส่งมาอยู่เรื่อย ๆ บนโฮมเพจของตัวฉันเองในสังคมออนไลน์
"โก ๆ โกไม่เข้าไปดูแลไร่แล้วเหรอ เห็นเหี่ยวเฉาน่าดู" เพื่อนทางเน็ตคนหนึ่งถาม
"ไม่แล้วล่ะ ตอนนี้กำลังคิดจะขายไอเท็มทั้งหมดแล้วปิดไร่ซะเลยเนี่ย อิ่มตัวแล้ว" ฉันบอกเขาไปอย่างนั้น แล้วมาหวนคิดในภายหลังว่า พูดแบบนั้นทำไมวะ
อีกสองสามนาทีต่อมา ฉันนั่งดูภาพไร่ที่ตัวเองสร้างขึ้นบนจอคอมพิวเตอร์อย่างอาวรณ์ ฉันตัดสินใจแล้วที่จะหยุดมันแต่ยังลังเลอยู่มากกับการต้องเสียมันไป ฉันคลิกต้นไม้ต้นแรก แถบเมนูขึ้นมาถามว่า ย้าย หรือ ขาย เมาส์ถูกจิ้มไปแล้วที่แถบขาย วินาทีนั้นให้รู้สึกว่า นี่ฉันกำลังทำลายสิ่งที่ฉันสร้างขึ้นมา มันไม่ง่ายเลยที่จะได้มาซึ่งสิ่งที่สวยงามเหล่านี้ แม้มันจะเป็นแค่ในเกมก็เหอะ "เก็บมันไว้ดีกว่า ปล่อยมันไปอย่างนี้ก็ดีแล้วนี่นา ไม่ได้เสียเงินค่าเช่าที่ซักหน่อย" แว่วเสียงหนึ่งดังขึ้นมาอย่างอ่อนโยนในห้วงความคิด "ไม่กล้าล่ะสิ " อีกเสียงหนึ่งเย้ยหยัน "ยอมรับเหอะว่าแกรักมัน แกติดมัน แกทิ้งมันไม่ได้หรอก" ฉันหลับตาแล้วออกแรงที่นิ้วชี้ เสียงคลิกเบา ๆ ตามด้วยกล่องข้อความว่า
คุณจะขายต้นส้มนี้ได้ในราคา 50 บาท ยอมรับหรือเปล่า
"บ้าเอ๊ย!! แกซื้อมันมาตั้ง สามร้อยกว่าบาทเชียวนะ เก็บไว้เหอะ" เสียงอ่อนโยนในครั้งแรกเริ่มเข้มขึ้น "เสียดายตังค์ล่ะสิ เสียดายความสวยงามล่ะสิ เสียดายความสนุกของมันล่ะสิ" เสียงกร้าวในครั้งแรก ยังกร้าวเท่าครั้งก่อน แต่เหยียดหยามมากกว่าครั้งเก่า
ฉันจิ้มลูกศรที่แถบ อนุมัติ แล้วออกแรงคลิก ต้นไม้หายไปหนึ่งต้น ตังค์เพิ่มขึ้นนิดหน่อย ใจปลอดโปร่งขึ้นมาก ฉันลอบถอนหายใจ
ฉันคลิกขายต้นไม้ทีละต้น ๆ จนหมด จากนั้นจึงขายโรงเลี้ยงวัว โรงเลี้ยงม้า ขณะที่คลิกขาย ภาพความพยายามหาตะปู ไม้กระดาน อิฐ เข้ามาเล่นงานความพยายามของฉันอย่างหนัก แต่ความร่าเริงก็กลับมาสู่ฉันอีกครั้งเมื่อฉันขายโรงเรือนขนาดใหญ่ไปทั้งหมด
ฉันเริ่มสนุกกับการขายไอเท็มทั้งหมดที่มีโดยไม่สนใจว่าจะมีราคาหรือไม่ ความเสียดายที่เคยเกิดขึ้นในครั้งแรก ๆ เหือดหายไป "มันไม่ใช่ของเรามาตั้งแต่ต้นแล้ว" หลังจากนั้นฉันก็ง่วนอยู่กับการรีไซเคิลแปลงปลูกให้กลายเป็นพื้นที่ว่าง
ตอนนี้ในไร่ของฉันมีเพียงคนดูแลสวน อุโมงค์เก็บของ และ แผงขายผักอีกหนึ่งแผง ที่ฉันไม่สามารถขายได้ เพราะเกมไม่ยอมให้ขาย แต่ช่างมันเถอะ...
ฉันเข้าไปบล็อกแอพลิเคชั่นนี้จากโลกไซเบอร์ที่จะเข้าสู่ตัวฉันได้ เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ฉันคิดว่า น่าจะพอแล้วสำหรับการบอกลาเกมปลูกผัก ที่ใคร ๆ เตือนนักเตือนหนาว่าระวังจะติด
ฉันยังอยู่ในโลกสังคมออนไลน์ ฉันยังมีความสุขกับการออกความเห็นบนสเตตัสของเพื่อน ๆ ของฉัน หยิกคนนี้ กัดคนโน้นไปเรื่อยเปื่อย
และมองดูข้อความที่ส่งมาบอกบนโฮมเพจว่า ขอปุ๋ยหน่อย ฉันได้รางวัลล่ะ ฉันแบ่งของให้เธอนะ ด้วยมุมมองที่ต่างออกไป
Goodbye Farmville......
เมื่อวันที่ : 21 ก.ย. 2553, 15.32 น.
ถึงว่า..ใครๆก"หลงใหล"็เฟซบุ๊ค
ผมเล่นเกมไม่เป็นซักอย่างเลยในนั้น
แถมไม่เก่งการ"คำนวณ"อีกต่างหาก
เมื่อเข้าไปในนั้นแล้ว..ผมว่าทุกคนเท่าเทียมกันหมด
จะต่างกันก็..ตรงที่ปฏิภาณไหวพริบเก่งกาจไม่เท่ากัน..ก็เท่านั้นเอง
แม้แต่ท่านนายก(อบต.)ผมก็ด่ามาแล้ว