![]() |
![]() |
พลอยพนม![]() |
โดย. พลอยพนม
เมื่อรู้ข่าวว่าบัดนี้ เฮียเล้ง ผู้ซึ่งพลาดตำแหน่งรองนายกเทศมตรีฝ่ายโยธาสมัยที่สอง ประมูลกิจการโรงฆ่าสัตว์เทศบาลได้แล้ว ต๋อง มาเลย์ ก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาทันที เพราะอย่างน้อยเวลาแกเสียพนันบอล แกก็คงจะควักกระเป๋าจ่ายให้เขาได้ไม่ยาก และเมื่อชนะก็คงจะไม่รีบร้อนเอาเงินจากเขาเหมือนเมื่อก่อน
คืนนี้ปีศาจแดงแมนยูจะโคจรไปเยือนทีมหมูสนาม... ต๋อง มาเลย์ คิดถึง เฮียเล้ง แล้วเขาก็นั่งยิ้มกริ่มอยู่ในใจ
สมัยทำงานการเมืองเฮียเล้งมักจะไม่มีเวลาให้กับงานส่วนตัวสักเท่าไหร่ แกจึงวางมือและผลักภาระให้เมียไปทั้งหมด กระทั่งไม่นานตัวแกก็ตกอยู่ในสภาพชักหน้าไม่ถึง เงินเดือนตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเดือนละสองหมื่นเศษ ๆ เพียงอย่างเดียว ไม่อาจพอแม้แต่ค่าน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์และค่าน้ำชากาแฟที่ต้องควักจ่ายอยู่แทบทุกเช้า จากเดิมที่เคยแทงพนันฟุตบอลกับโพยของเขาสนุกไปวัน ๆ เพียงครั้งละร้อยครึ่งร้อย ก็กลายเป็นครั้งละสี่ซ้าห้าพัน กระทั่งเลือดเข้าตาเข้าจริง ๆ ก็ขยับขึ้นไปถึงหมื่นก็มี
ซึ่งนั่นอาจเป็นช่วงที่บัดซบที่สุดในชีวิต ที่ทำให้แกต้องจมปลักอยู่กับการพนันฟุตบอลอย่างโงหัวไม่ขึ้น เพียงแค่หวังชนะ จะได้มีเงินใส่กระเป๋าไว้แก้ปัญหาสารพัดที่มักจะเกิดขึ้นเฉพาะหน้า โดยไม่ต้องรบกวนเมียของแกให้เป็นที่รำคาญหัวใจ
แต่การพนันไม่ว่า ไพ่ ถั่วโป หรือหวยสองตัว-สามตัวก็ไม่อาจคาดหวังอะไรได้ เพราะเมื่อถึงคราวซวยทุกอย่างก็มักจะกลับตาลปัตร ไม่เว้นแม้กระทั่งการพนันฟุตบอลซึ่งกำลังเป็นที่นิยมกันอยู่ในขณะนี้ ก็มักจะฉีกกระเป๋าเซียนให้ย่อยยับอยู่เสมอ
เหมือนอย่างเฮียเล้งที่ต้องกลายเป็นคนกระเป๋าแห้ง และตกเป็นหนี้ติดค้างค่าพนันแก่เขาเสียส่วนมาก แถมติดค้างครั้งละนาน ๆ ชนิดของเก่าก็ไม่จ่าย แต่ของใหม่กลับเพิ่มเข้าไปทุกวัน ๆ โดยที่เขาก็มักจะไม่กล้าทวง เพราะใคร ๆ ต่างก็พูดกันว่า
เฮียเล้งเป็นคนดี!!
แน่ล่ะ การติดตามทวงหนี้คนดีทำได้ง่าย ๆ เสียที่ไหน
เฮียเล้ง หรือ นายสุรพงษ์ แซ่จีนกุล ได้ถูกชักนำเข้าสู่วงการการเมืองท้องถิ่นครั้งแรกก็เพราะความเป็น "คนดี" ของเขานี่เอง ที่หัวหน้าทีมผู้สมัครในครั้งนั้นได้อาศัยเป็นจุดขาย กระทั่งประสบชัยชนะในการเลือกตั้งเหนือคู่แข่งแบบเหมาเข่ง ตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีฝ่ายโยธาจึงถูกตกรางวัลมาให้เขาตามสัญญา เพราะเชื่อว่าผ้ายันต์ที่ลงอักขระ "คนดี" ของเขามีส่วนช่วยอยู่มาก
นายสุรพงษ์ แซ่จีนกุล รองนายกเทศมนตรีหนุ่ม วัย ๓๑ ปี หน้าตี๋ ๆ ร่างสันทัด ผิวขาว สวมชุดกากีเดินเข้าเดินออกสำนักงานเทศบาลเท่อย่าบอกใคร เมื่อออกตรวจงานก็มีรถกระบะประจำตำแหน่งให้นั่งอย่างโก้หรู
คนส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบเขาก็พลอยยินดีและพูดกันว่า คนดี ก็ควรได้รับสิ่งดี ๆ อย่างน้อยเมื่อนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ครบสี่ปี เขาก็คงจะไม่ถึงกับขาดทุน... เพราะแต่ละปี งานรับเหมาหรือโปรเจ็คต์ต่าง ๆ ที่ต้องผ่านการเห็นชอบจากฝ่ายโยธามีมูลค่ามหาศาล ใครก็ตามที่ได้ตำแหน่งนี้ไปครอง ก็จะถอนทุนได้สำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว
สำมะหาอะไรกับที่แจกจ่ายไปหัวละ ๒๐๐--๓๐๐ หรือบางรายอาจถึงพันหรือสองพัน เมื่อตอนหาเสียง เพราะมันจิ๊บจ๊อยเหลือเกินสำหรับผู้ที่มีโอกาสเข้ามากำกับดูแลกิจการของเทศบาลในแผนกนี้ ซึ่งนอกจากจะถอนทุนคืนในระยะเวลาอันรวดเร็วได้แล้ว กว่าจะหมดวาระก็ยังมีโอกาสฟันกำไรงาม ๆ กระทั่งท่วมทุนไปเลยก็มี
ถนนแอสฟัลท์ความยาว ๔-๕ กิโลเมตร สักสายสองสาย สนามกีฬา หอประชุมของแต่ละชุมชนในเขตรับผิดชอบของเทศบาลสักสามสี่หลัง บ่อบำบัดน้ำเสีย กระทั่งงานขุดลอกคูน้ำสองข้างถนนภายในตลาด หรือการก่อสร้างเตาเผาขยะชนิดป้องกันและควบคุมมลพิษอะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนส่งผลตอบแทนค่าน้ำหมึกเซ็นอนุมัติ หรือเซ็นรับรองการตรวจรับงานอย่างเป็นกอบเป็นกำให้กับผู้ที่กำกับดูแลในเรื่องนี้กันทั้งนั้น
หากแต่ท่านรองฯ สุรพงษ์ แซ่จีนกุล หรือ นายเล้ง แซ่จีน ผู้มีโอกาสยืนอยู่ในตำแหน่งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างกลับไม่เช่นนั้น เพราะคุณความดีที่เขาพกติดตัวมันค้ำคอเขาไว้ ร้อยชักสามหรือร้อยชักสี่-ชักห้า แดงเดียวเขาไม่อาจหมกเม็ดเข้ากระเป๋า หรือแม้แต่เหล้ายาปลาปิ้งของผู้รับเหมา ถ้าไม่จำเป็นหรือไม่จนตรอกจริง ๆ นายเล้ง แซ่จีน ก็มักจะหาทางหลบเลี่ยงไปเสียเสมอ ทำให้ผู้รับเหมาหลายรายพากันแปลกใจจนแทบไม่เชื่อสายตาและความรู้สึกของตนเอง เพราะเกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นคน "ง่าว " แบบนี้สักคน
หรือแม้แต่เจ๊อ้วน ผู้ครองตำแหน่งคุณนายรองนายกฯของเขา ก็ยังอดที่จะแปลกใจกับเรื่องนี้ไม่ได้เหมือนกัน
"ทุกวันนี้ ฉันสับซี้โครงหมูจนมือเคล็ด แต่เงินทองกลับร่อยหรอไม่เหลือติดลิ้นชักเหมือนก่อน เพราะวันละสี่ซ้าห้าร้อย หรือพันครึ่งพัน เฮียเล้งเป็นต้องไถไปจากฉันเสมอ... ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าแกกำลังทำอะไรขอแกอยู่"
เจ๊อ้วน มักส่ายพร้อมกับบ่นให้คนใกล้ชิดฟังอยู่บ่อย ๆ เกี่ยวกับรายได้ของสามีซึ่งไม่พอค่าเหล้า ค่าน้ำชา แถมภาษีสังคมทั้งซองขาว ซองแดง เพิ่มเป็นเงาตามตัว กระทั่งท่านรองนายกฯต้องหันมาพึ่งเงินในลิ้นชักเขียงหมูของหล่อนอยู่ประจำ
ซึ่งแต่ละซองจะใส่น้อย ๆ เหมือนเมื่อก่อนก็ไม่ได้...
"เป็นนักการเมืองจะทำอะไรต้องคิดถึงอนาคต" คำเตือนของนายกเทศมนตรี ลูกพี่ของเขา ดังก้องอยู่ข้างหู
ท่านรองฯสุรพงษ์จึงจำต้องกัดฟันใส่ซองไปตามธรรมเนียม ซึ่งอย่างน้อย...แต่งห้า บวชสาม ศพสองแถมบางครั้งเมื่อเหยียบย่างไปถึงบริเวณงาน ก็มักจะโดนพวกขี้เมาที่เดินเหยียบแม่เท้ากันอยู่ในที่นั้นคอยรีดไถอีกทอดหนึ่ง
"โอ นายหัวนั่นเอง นึกว่าใคร สวัสดีครับ... เชิญครับ เชิญที่โต๊ะผม"
ขี้เมาพวกนี้เมื่อหันไปเห็นนักการเมืองผู้ทรงเกียรติโผล่หน้าไป ก็มักจะแย่งกันยกมือไหว้เชื้อเชิญอย่างนอบน้อม เพื่อการบรรลุเป้าหมายของความเมา
ถ้าเป็นงานแต่งหรืองานเลี้ยงฉลองต่าง ๆ ยังพอทำเนา เพราะเจ้าภาพจะจัดข้าวปลาอาหารรวมทั้งเหล้าและเครื่องดื่มไว้รับรองแขกบนโต๊ะจีนเสร็จสรรพแล้ว แต่ถ้าเป็นงานศพหรืองานบุญที่เจ้าภาพไม่เลี้ยงเหล้า ภาระอันหนักหนาสาหัสนั้นก็มักจะหล่นใส่บ่าพวกนักการเมืองอย่างช่วยไม่ได้ พวกเขาจะแกล้งทำเมิน ทำเป็นมองไม่เห็น หรือเอาหูทวนลมทำเป็นไม่ได้ยินก็ไม่ได้ เพราะประเดี๋ยวขี้เมาพวกนั้นเกิดของขึ้นขึ้นมา ความลับบางอย่างในคืนหมาหอนอาจถูกแฉขึ้นกลางประชุมชน ก็ไม่แคล้วต้องแทรกแผ่นดินหนีอายกันเท่านั้น
ในระหว่างดำรงตำแหน่งทางการเมืองอันทรงเกียรติ ท่านรองนายกฯสุรพงษ์ หรือ เฮียเล้ง ของ ต๋อง มาเลย์ ก็ต้องตกเป็นเบี้ยล่างของคนพวกนี้เช่นกัน เมื่อย่างเท้าออกจากบ้านไปในทางทิศใดก็มักจะหนีไม่พ้นฝ่ามือแบน ๆ ที่ยื่นมาหา เขาจึงจำต้องควักกระเป๋า ควักแล้วควักอีก ควักเสียจนกระทั่งลามไปถึงลิ้นชักเขียงหมูของเมีย เพราะไม่ต้องการให้เสียคะแนนนิยมเหมือนดังว่า...
ทว่าหนัก ๆ เข้า ผู้เป็นเมียก็เลือดขึ้นหน้าเป็นเหมือนกัน!
"อั๊วว่า ลื้อถอดหัวโขนบ้าบอนั่นโยนทิ้ง แล้วกลับมาช่วยอั๊วขายหมูเหมือนเดิมดีกว่าน่อ-อาเฮีย"
"เฮ่ย- -พูดเป็นบ้าไปได้ ลื้อก้อ"
ได้ยินคำแสลงหู อาเฮียชักสีหน้าไม่ดี กลิ่นน้ำชาที่หอมกรุ่นอยู่บนโต๊ะ ก็ชักจะไม่โชยแตะจมูกเหมือนทุกวัน จนในที่สุดเขาก็ลุกคว้างไปคว้าถุงน่องรองเท้ามาสวม เสร็จแล้วตรงไปที่มอเตอร์ไซค์คู่ชีพซึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน ควบปร๋อไปหาพรรคพวกที่ร้านน้ำชาปากซอย
ร้านน้ำชาโกเคว แหล่งชุมนุมคอการเมืองที่ตั้งอยู่ข้างปากซอยบ้านท่านรองนายกฯสุรพงษ์ ไม่ต่างรัฐสภาภาคประชาชน การอภิปรายโต้ตอบข้ามถ้วยน้ำชาตั้งแต่ประเด็นเล็ก ๆ สัพเพเหระ กระทั่งเรื่องสำคัญ ๆ ของบ้านเมือง มักเป็นไปอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนแทบทุกวัน
นั่นโกจิ้น นั่นแป๊ะเส็ง นั่นโกไข่ และนั่นก็เฮียฮก ส่วนอีกโต๊ะก็พวกนักเลงไก่ชน ล้วนขาประจำคุ้นหน้าคุ้นตากันทั้งนั้น
ที่สำคัญแต่ละคนที่กำลังนั่งถกกันอยู่ตอนนี้ ล้วนหัวหมอขั้นเซียนแทบทั้งสิ้น ขนาดทนายความบางคนที่ขึ้นชื่อเรื่องหัวหมอ บางครั้งเมื่อพลัดหลงมาเข้าร้านน้ำชาโกเคว ก็ยังต้องอาย ยอมยกธงขาวลากสังขารล่าถอยไปอย่างง่ายดายก็มี ซึ่งส่วนมากพวกหัวหมอเหล่านี้ ก็ล้วนหัวคะแนนและคนสนิทของท่านรองนายกฯสุรพงษ์แทบทั้งนั้น จะมีคนนอกก็แต่ไอ้จวบคนเดียว ไอ้หมอนั่นพอถึงเทศกาลกินน้ำพริกจีน มันจะแบมือรับเละ ส่วนเรื่องจะกาบัตรลงคะแนนให้ใครหรือไม่ มันเลือกเอาตามพอใจของมัน ท่านรองนายฯและสมัครพรรคพวกภายในร้านน้ำชาแห่งนี้รู้กันดี เรื่องแบบนี้ไม่อาจลอดหูลอดตาพวกเขาไปได้ แต่ท่านรองนายกฯผู้นี้ก็มิได้มีใจผูกพยาบาท ก่อนออกจากร้านน้ำชาเพื่อเลยไปยังสำนักงานเทศบาลในวันนั้น เขาก็ยังควักเงินจ่ายค่าน้ำชาให้ไอ้จวบด้วยซ้ำ
ช่างมัน เผื่อวันหน้ามันเปลี่ยนใจ
กาลเวลาล่วงไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่านิทาน เหลืออีกสามสี่เดือนคณะผู้บริหารงานเทศบาลชุดนี้ก็จะหมดวาระลง หากแต่การฟอร์มทีมสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป พวกเขาก็ได้ฟอร์มกันมาคร่าว ๆ บ้างแล้ว ใครรับผิดชอบฐานเสียงหน่วยไหน ใครมีทุนร่วมลงขันเท่าไหร่ ได้ผ่านการวางแผนและปรึกษาหารือกันพอสมควร
"เที่ยวนี้แพ้ไม่ได้"
ท่านรองนายกฯสุรพงษ์ออกปากคาดคั้นกับหัวคะแนนอย่างมั่นอกมั่นใจ
กระทั่งถึงวันที่สภาฯหมดวาระเข้าจริง ๆ การประกาศรับสมัครสมาชิกสภาฯตลอดจนทีมงานบริหารชุดใหม่ พร้อมทั้ง วัน เวลา และขั้นตอนต่าง ๆ ก็ได้ถูกกำหนดขึ้น ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามระเบียบและกระบวนการของมันอย่างถูกต้อง ในหมู่ผู้คนที่ฝักใฝ่การเมืองก็มีการฟอร์มทีมลงสมัครรับเลือกตั้งกันถ้วนหน้า ใครจับมือกับใคร ใครอยู่กลุ่มไหน-ทีมไหน หรือใครอาสาเป็นนายทุนให้ใคร เป็นที่รู้กันในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมกับ
การพนันขันต่อทีมไหนแพ้-ชนะก็ติดตามมาอย่างคึกคัก
ที่สำคัญและไม่อาจมองข้าม ก็เห็นจะหนีไม่พ้นพวกหัวคะแนน ซึ่งต่างก็นอนเลียปากแผล็บ ๆ อย่างสบายใจเฉิบ...
"เทศกาลกินน้ำพริกจีนมาถึงแล้วโว้ย! ฮา ฮา"
ใครดีใครอยู่ คือ ความเป็นไปในกระบวนการหาเสียงที่ปรากฏอยู่จริงทั่วทุกภูมิภาค และมันก็กำลังจะเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ขึ้นที่นี่อีกครั้ง... ด้วยความคึกคักเป็นอย่างยิ่ง
แน่นอน ! ผู้สมัครที่เคยผ่านประสบการณ์และเป็นผู้ที่ประพฤติตัวเสมอต้นเสมอปลาย ย่อมได้เปรียบผู้สมัครหน้าใหม่และหน้าเก่าที่ไร้ความโดดเด่นอยู่บ้าง... หากแต่นั่นก็มิได้หมายความว่า ข้อกำหนดดังกล่าวจะเป็นตัวตัดสินแพ้-ชนะไปเสียทีเดียว เพราะเมื่อถึงเวลาเข้าจริง ๆ ตัวแปรสำคัญก็ยังจะมีอยู่มาก
พวกนักการเมืองระดับเหนือขึ้นไปก็มีส่วนไม่น้อย ทั้ง ส.จ. และ ส.ส. ซึ่งต้องการขยายฐานอำนาจของตนให้แผ่กว้างออกไปก็มีส่วนผลักดันอยู่มาก โดยเฉพาะในบางท้องที่ คนพวกนี้ก็ถึงกับกำหนดชะตากรรมของผู้สมัครรับเลือกตั้งในระดับล่างรองจากพวกเขาได้เลยทีเดียว...
อิทธิพลของนักการเมืองระดับชาติหรือระดับจังหวัดเป็นที่น่าเกรงขาม และน่าขยะแขยง ถ้าหากเขาจะยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องจริง ๆ ความรุนแรงชนิดบาดเจ็บล้มตายโดยที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่อาจสาวมือใครดมได้ ก็มักจะปรากฏให้เห็นกันบ่อย ๆ
แต่ถึงอย่างไร ตัวแปรที่สำคัญเป็นอันดับหนึ่งก็ไม่แคล้วกระสุนกระดาษ
คืนหมาหอนเป็นคืนที่โหดร้ายและน่ากลัวที่สุดสำหรับนักการเมืองผู้ขาดเม็ดกระสุน
ในการณ์นี้ แม้อดีตรองนายกฯสุรพงษ์ หรือ เฮียเล้ง ของ ต๋อง มาเลย์ จะเป็นผู้กว้างขวาง และรู้จักคบหาทั้งกับนักการเมืองหน่วยเหนือและผู้คนทั่วไปมากมาย อีกทั้งเขาเองก็ยังทำตัวเสมอต้นเสมอปลาย งานหลวงไม่ขาด งานราษฎร์ไม่เสีย เหล้ายาปลาปิ้งใครขอมาก็จัดให้ไม่ติดขัด ซึ่งเชื่อได้ว่า เพียงแค่เขาหยอดน้ำเลี้ยงยิงกระสุนสำทับเข้าไปสักเล็กน้อย ตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีฝ่ายโยธารอบที่สองก็เห็นจะหนีไม่พ้นมือเขา
หากแต่เมื่อเทศกาลกินน้ำพริกจีนเที่ยวนี้ล่วงผ่านไปหลายวันเข้า รอยยิ้มบนใบหน้าของอดีตท่านรองนายกฯสุรพงษ์ก็ชักจะเหือดหาย หน้าตาหมองคล้ำไม่สดชื่นเหมือนเก่า แถมบางวันก็ออกจะเบลอ ๆ เหมือนเจอบอลต้ม แม้กระทั่งยามนอนก็แทบยกเท้าก่ายหน้าผากคืนละหลายครั้ง เพราะเจ๊อ้วนเมียของเขา ดันเอาใบทะเบียนสมรสมาวางขู่ไว้บนหัวเตียง
"ลื้อเป็นรองนายกฝ่ายโยธามาสามสี่ปี อั๊วหมดไปเป็นล้าน-อ่ะ บาทเดียวลื้อก็ไม่รู้จักแหลกเหมือนคนอื่น แล้วอั๊วจะเอาเงินที่ไหนมาอุดหนุนลื้อนักวะ- อาเฮีย ลูกคนโตก็จะเข้ามาหาวิดทายาลัยเลี้ยว ลื้อไม่เคยช่วยซักกะบาท- - อั๊วทั้งน้าน โฮ..."
อาเจ๊ปล่อยโฮออกมาลั่นห้องนอนด้วยความอัดอั้นตันใจ เพราะหล่อนรู้ว่า สามีของหล่อน"เป็งคงลี" และลีเกิงกว่าจะเข้าไปสุงสิงกับวงการนักการเมือง สู้ปล่อยให้อาเฮียไปนั่งโม้ตามร้านน้ำชา หรือไม่ก็ปล่อยให้แทงบอลของเจ้าต๋อง สนุกไปวัน ๆ ยังจะดีเสียกว่า ได้บ้างเสียบ้างก็คงจะไม่ฉิบหายเหมือนกับที่เป็นข่าว... เพราะเฮียเล้งไม่มีนิสัยขี้โลภ แต่ถ้าขืนปล่อยให้เฮียเล่นการเมืองต่อไป--นั่นสิไม่แน่ เผลอ ๆ ครอบครัวของหล่อนอาจถึงกาลวิบัติฉิบหายเข้าสักวันก็ได้
ไม่มีใครรู้ คืนนั้นสองผัวเมียคู่นี้กินน้ำสาบานแช่ใบทะเบียนสมรสกันว่าอย่างไร แต่หลังจากการเลือกตั้งครั้งนั้นผ่านพ้นไป ก็มีคนเห็น เฮียเล้ง เดินบ่นหัวเสียอยู่หลายวัน เพราะผลการเลือกตั้งรอบนั้นปรากฏออกมาว่า ทีมงานผู้บริหารของเขาพ่ายให้กับคู่แข่งสำคัญไปอย่างเฉียดฉิวเพียง ๔ แต้มเท่านั้น
"แพ้ไม่ไล่ ฮ่า ฮ่า " ต๋อง มาเลย์ แบมือเข้าไปหาเฮียเล้ง พร้อมกับหัวเราะตาหยีอย่างผู้กำชัย
"เออ- -ไอ้ชิบหาย แพ้แล้วได้มีที่ไหนวะ แพ้ก็ต้องจ่ายให้มึงซิเว้ย เอ้า เอาไป ไอ้สันดาน"
อดีตรองนายกฯหนุ่มล้วงกระเป๋ากางเกง ควักแบงก์ร้อยยับยู่ยี่ออกมาสองใบ ยื่นให้เจ๊กร่างท้วมด้วยสีหน้าบึ้งตึง เมื่อคืนเขาแทงพนันฟุตบอลทีมปีศาจแดงซึ่งเป็นต่อทั้งแต้มทั้งราคาไปกับโพยของ เจ้าต๋อง มาเลย์ ไปสองร้อยบาท แต่เมื่อจบการแข่งขันปรากฏว่าทีมปีศาจแดงกลับทำได้แค่ตีเสมอ พวกขาพนันที่โปะเดิมพันลงบนฝั่งเป็นต่อจึงต้องพ่ายให้กับเจ้ามือผู้รับแทงไปตามระเบียบ
ต๋อง มาเลย์ รับใบแดงสองใบจากมือเฮียเล้งยัดใส่กระเป๋าหน้าอก แล้วว่า
"เฮียเล้ง- - ลื้อจำไว้นะ ไม่ว่าฟุตบอลหรือการเมือง ผู้ที่พุ่งเข้าหามัน จะเป็นคนดีหรือไม่ ไม่สำคัญ ข้อสำคัญก็คือ อย่าแพ้ เพราะขืนแพ้ก็ชวดทันที แพ้ไม่ไล่เว้ย - อาเฮีย ฮ่า ฮ่า"
******************************
เมื่อวันที่ : 31 ก.ค. 2553, 07.34 น.
ผมเชื่อว่า เมื่อคุณ ๆ อ่านเรื่องนี้จบ ก็จะมเกิดคำถามขึ้นในใจคล้าย ๆ กัน
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง โปรดจงถามนะครับ
ผมกำลังรอตอบข้อข้องใจนั้นอยู่
ขอบคุณครับ