![]() |
![]() |
ขนมตาลยายมี![]() |
...
ขอเกริ่นนำให้รู้จักกับเพื่อนตัวน้อยก่อนนะคะ 1.ทาโร่ [IMG]http://i449.photobucket.com/albums/qq219/primprou/DSC00460_1.jpg[/IMG] 2.ข้าวปุ้น...


1.ทาโร่ Syrian
[IMG]http://i449.photobucket.com/albums/qq219/primprou/DSC00460_1.jpg[/IMG]
2.ข้าวปุ้น Syrian
[IMG]http://i449.photobucket.com/albums/qq219/primprou/DSC01483_P.jpg[/IMG]
3.ข้าวตัง Winter white-Perl
[IMG]http://i449.photobucket.com/albums/qq219/primprou/DSC01581_1.jpg[/IMG
4.ข้าวตู Campbell Normal
[IMG]http://i449.photobucket.com/albums/qq219/primprou/DSC006871_p.jpg[/IMG]
ครอบครัวเราเป็นครอบครัวคนจีนและเป็นครอบครัวใหญ่เรื่องทุก ๆ เรื่องที่อุบัติขึ้นในทุก ๆ เวลาไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามถ้ามาเกิดในครอบครัวนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทุก ๆ เรื่อง เหตุมีอยู่ว่า วันเกิด พรีม ครบ 11 ขวบซึ่งเป็นลูกสาวของเราเองและเป็นหลานสาวคนเดียวคนเดียวในครอบครัวนี้ พรีมได้ของขวัญวันเกิดจากเพื่อนเป็นหนูแฮมเตอร์ Syrian เราตั้งชื่อให้ว่า ทาโร่ การเพิ่มสมาชิกใหม่ซึ่งเป็นหนูแฮมเตอร์ ตัวเล็กๆๆ ขึ้นในบ้านหลังนี้ ก็กลายเป็นปัญหาเช่นเดิม อาม่ากลัวเชื้อโรคจะมากลับหนูบ้างแหละ อา ก็ว่าเดี๋ยวเด็กๆ ก้อติดโรคจากหนูบ้างแหละ ป้าก็ว่าและใครจะเป็นคนดูแลมันแล้วมันจะกินยังไง จะนอนยังไง จะอยู่ยังไง สารพัดปัญหา?????ที่ไม่มีใครตอบ โอยปวดหัว วัน2-3 แรกเรายังไม่มีกรงให้เจ้าทาโร่ ก็เลยดัดแปลงตระกร้าพลาสติก และใช้กระดาษลังเบียร์ทำเป็นฝาปิดกันหนี เจ้าทาโร่ อยู่แบบเป็นสุขได้เพียง 2 วันเท่านั้น ก็ได้แสดงความสามารถโดยการแทะ แทะ แทะ อย่างเมามันส์ ทั้งฝาลัง ตระกร้า พลาสติก เป็นช่องประตูและหน้าต่าง หลายช่องด้วยกัน เป็นอันว่าต้องจัดการที่อยู่อาศัยให้เป็นการเร่งด่วนกันไป และแล้วก็ได้กรงสีส้มขาว เป็น 2 ชั้น ชั้นบนมีบ้านสีขาวเหลือง มีบันไดลงมาชั้นล่าง ชั้นล่างมีวงล้อของเล่น ขวดน้ำ และชามข้าว เจ้าทาโร่ ตื่นเต้นกับบ้านใหม่มากเดินขึ้น-ลง บันได เล่นวงล้อ สลับไปมาวุ่นวายอยู่ในกรง เราแกล้งเอาบันไดออก เจ้าทาโร่หาทางขึ้นบ้านไม่ได้ ทั้งที่สามารถปีนด้านข้างกรงขึ้นไปก็ได้แต่ไม่ยอมปีนซะงั้น มาเกาะประตูมองบันได ที่เราเอาออกมาวางไว้นอกกรงด้วยสายตา งง คงคิดว่า เฮ้ยใครเอาออกไปฟะ แล้วตูจะขึ้นบ้านยังไง มันเกาะประตูมองบันได แล้วเดินวนไปวนมาอยูอย่างนั้น เราสงสารเลยใส่ให้เหมือนเดิม มันดีใจรีบไปตุนอาหารไว้ทีแก้มจนแก้มป่องมาก แถมคาบเม็ดอาหารเม็ดที่มีขนาดใกล้เคียงกับหัวของมันอีก 1 เม็ด ขนขึ้นเอาไปไว้กินบนบ้าน พอกินเสร็จแล้วก็นอนหลับอืดอยู่ในบ้าน วันเวลาผ่านไป 3 เดือน เจ้าทาโร่ ตัวโตขึ้น น่ารักขึ้น คนในบ้านก็เริ่มรักมัน ชอบนั่งดู กิจวัตรของมัน แล้วก็ขำ ดี มันชอบวิ่ง วงล้อชนิดที่ว่าเอาเป็นเอาตาย วิ่งจนวงล้อหลุดลงมาครอบตัวมัน ตั้งหลายครั้ง และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดก็เกิด พรีมพาทาโร่ไปขี่จักรยานเล่น ท่าโร่มันคงรำคาญและอึดอัดมันเลย หาทางเปิดซิปกระเป๋าเพื่อหลบหนี ผลที่ได้คือตกลงบนพื้นถนน ท่าโร่นิ่งไม่เคลื่อนไหว พรีมร้องไห้อุ้มท่าโร่กลับมาบ้าน มีเลือดออกจากตา ปาก และหู ของทาโร่ พรีม โดน อาม่า อา ป้า และ พ่อ รุมต่อว่า เรารีบพาไปหาหมอ พอไปถึงหมอเล่าเหตุการณ์หมอฟัง หมอตรวจดูอาการแล้วบอกว่า ข้างในของทาโร่ช้ำมากเพราะตกจากที่สูง คงไม่รอดแน่นอน เราต่อว่าพรีมว่าเห็นคิดแต่สนุก ไม่คิดถึงชีวิตคนอื่น พรีมถามว่าแม่เสียใจมากไหม ถ้าทาโร่ตาย เราตอบว่า เสียใจซิ ทาโร่ก็เป็นครอบครัวเดียวกับเรา ถ้าทาโร่ตาย ทุกคนในบ้านก็ต้องเสียใจเป็นธรรมดา แล้วเย็นนั้นท่าโร่ก็ไป สวรรค์ เรากับพรีมช่วยกันฝังร่างทาโร่ ไว่ที่โคนต้นลีลาวดีหน้าบ้าน
วันนั้นเอง พรีมแอบไปซื้อหนูแฮมเตอร์ ตัวเล็กๆ มาใหม่ หน้าตาคล้ายเจ้าทาโร่ มาก พรีมบอกว่ามันเป็นน้องของทาโร่
เราตั้งชื่อให้เจ้าหนูตัวใหม่ว่า ข้าวปุ้น ข้าวปุ้นซนกว่าท่าโร่ ดื้อกว่า ชอบแทะกรง ปีนกรงขึ้นหลังคา แล้วกระโดดลงมา
นอนหงายท้อง อยู่ชั้นล่างของกรง วันละหลาย ๆ ครั้ง ช่วงกลางวัน จะนอนยาว ตั้งแต่ ตี 5 ถึง 2 ทุ่ม พอตื่นขึ้น ก็จะออกจากกรงมาเล่นข้างนอก ถ้าไม่มีใครพาออกมาก็จะ ถอดหลังคาบ้านแล้วทุ่มลงพื้น ตามด้วยผลักบ้านลงมาชั้นล่าง แล้วมาเขย่าประตูกรง แทะประตูกรง ทำทุกอย่างเพื่อให้ใครก็ได้พาออกมาวิ่งเล่นข้างนอก เจ้าข้าวปุ้นแอบหนีออกจากกรงไปผจญภัยด้วยตัวเอง 3 ครั้งด้วยกัน ครั้งแรกในห้องนอน พรีมปิดประตูกรงไม่แน่นพอ ข้าวปุ้นหนีเขาไปเล่นอยุ่ตามซอกหลีบในห้องแต่เรามั่นใจว่าอยู่ในบริเวณห้อง ก็ไม่ห่วงเท่าไหร่ เรารอการกลับมาโดยการโรยอาหารไว้หน้ากรงแล้วเปิดกรงรอไว้ 1 วัน ครึ่ง พบ ข้าวปุ้นกลับมานอนหลับอยูในบ้านน้อยของมัน สภาพขี้ฝุ่นติดเต็มตัว ครั้งที่สอง พรีมล้างกรงแล้วใส่กรงไม่แน่นพอ ล็อกไม่ครบทุกด้าน ข้าวปุ้นก็ลอดออกมาได้ วิ่งเล่นอยูในห้องรับแขกซึ่งกว้างกว่าครั้งแรก เราก็ใช้วิธีเดิม แต่ครังนี้กลางคืนเรานอนกลางห้องรับแขกด้วย ประมานเที่ยงคืนเรารู้สึกว่ามีตัวนิ่มๆ มาซุกที่คอเรา หันไปเจอ ข้าวปุ้น มานอนด้วยเฉยเลย ครั้งที่สาม เราถอดชั้นล่างไปทำความสะอาด ใช้ตัวกรงครอบข้าวปุ้นไว้บนเตียงไม้ซึ่งไม่สูงนัก เราตั้งกรงด้านในสุดติดพนัง มั่นใจว่าปลอดภัยแน่นอน แต่ไม่เป็นอย่างที่คิด ข้าวปุ้นใช้หลังมันดันกรงแล้วค่อยๆ เลื่อนมาจนสุดเตียง แล้วกระโดดลงพื้น แล้ววิ่งหายไปในสวนข้างบ้าน อาม่าเห็นตอนมันเอาหลังดันกรง อาม่าคิดว่า มันดันเล่นเฉยๆ คนในบ้านช่วยกันตามจนถึงเที่ยงคืนไม่มีวี่แววที่จะเจอ อา บอกว่ากลางคืนแมวข้างบ้านชอบปีนรั้วเข้ามาในสวน ข้าวปุ้นอาจโดนแมวจับกินก็ได้ พวกเราทำใจ พ่อ บ่นสงสารมัน มันจะรู้ไหมว่าข้างนอกมีอันตรายแค่ไหน เราผิดที่ไม่ระวัง เราลองใช้มาตราการเดิม คือโรยอาหารตามทางเดิน และเปิดกรงรอไว้ เรานอนฝันว่ามันกลับมาแล้ว สะดุ้งตื่น รีบออกมาดูที่กรง ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทำใจอีกครั้ง 6 โมงเช้าเราตื่นเตรียมไปใส่บาตรพระ คิดถึง ข้าวปุ้น ลองเดินไปดูอีกครั้ง ข้าวปุ้นกลับมาแล้ว หลับอยู่ในบ้านน้อย เนื้อตัวมอมแมมมากมีเศษตะไคร่น้ำติดเต็มตัวและเหม็นมาก ต้องขัดสีฉวีวรรณ กัน 2-3 ครั้ง ถึงจะกลับสภาพเดิมได้ ไหน ๆ ก็มีสมาชิกหนูๆมาอยู่ร่วมชายคาแล้ว ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงเจ้าหนูจอมยุ่ง
กันซะหน่อย ไปค้นๆหาๆ ใน Internet แวะเข้าไปที http:// hamster.thaipetlover.com เข้าไปหาความรู้จากคนที่เลี้ยงแล้วมีปัญหา บางคนโพสท์เข้ามาโชว์รูปเพื่อนตัวเล็กพร้อมบรรยายสรรพคุณ หรือเขามาปรึกษาหนู(แฮมส์เตอร์))ไม่สบายทำยังไง การปฐมพยาบาลเบื้องต้นทำยังไง และอื่นๆ อีกมากมาย แล้วพระเจ้าก็บันดาลให้เราเจอกับกระทู้ นักเรียนคนนึง ต้องรับรับเลี้ยง เจ้าหนู 2 ตัวของเพื่อนที่เอามาฝากทิ้งไว้ ทั้ง ๆ ที่ไม่เต็มใจ จึงประกาศหาเจ้าของใหม่ ให้เจ้าหนู เราตัดสินใจ พิมพ์เบอร์โทร ตอบกลับไป 2 วันจากนั้น เราได้รับติดต่อและนัดสถานที่ในการรับ หนู เจ้าหนูมาหาเราในวันแรกแบบสภาพน่าสงสารมากเด็กเอากรงใส่ถุงก๊อปแก๊ปมา เราตกใจถามว่าแล้วหนู จะหายใจออกเหรอ อาหารและน้ำก็ไม่มี เด็กตอบว่า เขาต้องหลบแม่ของหอพัก เลยต้องทำแบบนี้ เจ้าหนู มีสีขาว 1 ตัว สีเทา 1 ตัว ท่าทางเจ้าสีขาว จะข่ม เจ้าสีเทาตลอด ขณะนั่งรถกลับบ้านเราสังเกตุ ได้ว่า ไม่ว่าเจ้าสีเทาจะทำอะไรจะโดนเจ้าสีขาวแย่งทุกอย่าง น่าสงสารจริง เราก็เลยแวะซื้อกรงเพิ่ม อีก 1 กรงบวกอุปกรณ์ อาหาร ครบครัน พอกลับถึงบ้าน ก่อนอื่น ต้องตั้งชื่อกันซะก่อน สีขาวชื่อ ข้าวตัง สีเทาชื่อข้าวตู เราจัดการแยก 2 หนูไปอยู่ 2 กรงโดย สวัสดิภาพ ข้าวตังตื่นเต้น กับที่อยู่ใหม่วิ่งวนไปมา ข้าวตูแสดงอาการดีใจมากกับการที่ได้ครอบครองกรงแต่เพียงตัวเดียว คื่อ กินน้ำจากขวด อย่างหิวกระหาย ไปกินอาหาร แล้วเข้าไปเล่นในบ้าน พักใหญ่ ออกมาเล่นวงล้อ ข้าวตูมีท่าทางเล่นวงไม่เหมือน ข้าวปุ้น และข้าวตัง คือ ทั้ง 2 ตัวก้อวิ่งอยู่ในวงล้อปรกติธรรมดา ของหนู ส่วน ข้าวตูเริ่มจากวิ่งในวงล้อแล้ว มีการเปลี่ยนท่าทาง นอนหงายท้องถีบใต้วงล้อบ้าง หรือยืนด้านข้างแล้วใช้ขาหน้าปั่นวงล้อ หรือ ยืนด้านหน้า ขาหลังอยู่ที่พื้น ขาหน้าปั่นวงล้อ เราคิดว่านี่คงเป็นความสามารถเฉพาะหนูบางตัวใช่หรือไม่ ข้าวตูมันหวงกรงและของทุกชิ้นของมันมาก เวลาทำความสะอาด ไม่ว่าเราจะหยิบสิ่งไหนออกมาทำความสะอาดมันจะไล่กัด ยื้อแย่ง ทุกชิ้น ไป ตอนทำความสะอาดมันก็จะยืนรอนิ่ง ๆ มองดูเราทำความสะอาดจนเสร็จทุกครั้งไป ชอบหนีออกจากกรงแล้วกลับมาเอง หลายครั้งด้วยกัน วันเวลาผ่านไปเจ้าข้างตังก็ลั้ลลา มีความสุขดี ทุกวัน กิน ๆ นอนๆ เล่น ๆ แปลกมากข้าวตังไม่ชอบออกจากกรง ขนาดเปิดประตูทิ้งไว้ ยังไม่ออกเลย ป๊อด สุด ๆ อย่างมากก็แค่มาแทะ ๆ ขอบประตู แล้วก็แทะบันไดเล่น ข้าวตังมีอารมณ์เจ้าหญิงสูงมาก ชอบออกมานอนหงายผึ่งพุงข้างบ้านน้อยเป็นประจำ เราเอานิ้วจิ้มพุงหรือจับขา มันจะร้องปี๊ดทันที แล้วจะ ป่อง ป่องเข้าบ้านไปทุกครั้ง เราชอบแกล้งตอนมันเดินขึ้นบันได จิ้มก้นมัน จะหันมามองหน้าก่อนแล้วร้องปี๊ด ป่อง ป่อง เข้าบ้านไปตามเคย เจ้าข้าวปุ้น ก็ยังดื้อซนเหมือนเดิม แต่ข้าวตูซิตอนอาบน้ำเราเห็นตุ่มสีแดงขนาดเท่าหัวหอมย่อมขึ้นที่ ใต้ท้อง เราไม่นอนใจพาไปหาหมอ หมอเจาะเลือดจากตุ่มแดงนั้นไปเพาะเชื้อ แล้วพบว่า ข้าวตูติดเชื้อในการเลือดจากความสกปรกที่เจ้าของเดิมได้ฝากไว้และ คงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน หมอให้ยาทาและยากิน น่าสงสารมาก มิน่าหละ มันจึงหงุดหงิดง่าย เราโดนกัดเป็นประจำ แต่ให้อภัยนะ ก็ไม่สบายนี่นา ช่วงใกล้ ๆ ปลายปี ข้าวตูมันกินกับนอน ไม่ค่อยเล่นวงล้อ ไม่ค่อยปีนกรงเล่น ตัวอ้วนขึ้นมาก เราคิดว่ามันสบายดีแต่เป็นที่คิด วันปีใหม่ ข้าวตูจากไปในสภาพนอนหลับอยู่หน้าบ้านหลังน้อย เหมือนนอนหลับปรกติ คงหลับแล้วไปเลยมั้ง ไปสวรรค์นะข้าวตู เราทำความสะอาดกรงของข้าวตูและอุปกรณ์ทุกชิ้นอย่างดีเก็บอย่างเรียบร้อย ยังไม่คิดที่จะหาตัวใหม่มาแทนข้าวตู จาก 4 เพื่อนตัวน้อย ติดปีกขึ้นสวรรค์ไปที่ละตัว เหลือเพียง 2 ตัว เจ้าตัง อ้วนขึ้น ๆ
ตัวกลมเป็นซาละเปาเลย เจ้าข้าวปุ้นก็ ชิว ชิวตามประสาไป รักนะ ทุกตัวเลย จะรู้มั้ยเนี่ย
เมื่อวันที่ : 04 ก.พ. 2552, 15.12 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...