![]() |
![]() |
กัลปจันทรา![]() |
...การบริจาค By George J. Condon ชายหนุ่มนามเจฟ เธอร์เนอร์ ออกเสียงครางอย่างกลัดกลุ้มเมื่ออ่านบัญชีที่เพิ่งได้ทำมา เป็นรายการสิ่งของที่ยังเหลืออยู่ เ...
การบริจาคBy George J. Condon
ชายหนุ่มนามเจฟ เธอร์เนอร์ ออกเสียงครางอย่างกลัดกลุ้มเมื่ออ่านบัญชีที่เพิ่งได้ทำมา เป็นรายการสิ่งของที่ยังเหลืออยู่ เขาโยนแผ่นกระดาษนั้นไปบนโต๊ะอย่างหัวเสียปนกังวล ยกมือสางผมหยิกสีเข้ม บ้าจริงๆ!!!อาหารในคลัง "กูดเชบปาร์ธฟูดแบ้งค์" หรือ "ธนาคารอาหาร" กำลังลดลงอย่างวูบวาบระหว่างหกเดือนนี้ และไม่ค่อยมีคนบริจาคมาเพิ่มให้เลย ถ้าไม่ดีขึ้นชั้นเก็บของต่างๆในที่นี้จะไม่เหลืออาหารเลยเมื่อถึงวันขอบคุณพระเจ้าในเดือนพฤศจิกายน นั่นยังไม่แย่พออีก เช้านี้เขายังต้องสัมภาษณ์อาชญากรเก่าอีกด้วย...เฮ้อ...
เจฟเชื่อว่าตัวเองเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจคนทั่วๆไป พร้อมเสมอที่จะให้โอกาสใครเป็นครั้งที่สองเพื่อแก้ตัว แต่บางทีการตัดสินใจสัมภาษณ์ "มอรีน โอนีล" อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ควรทำแม้ว่าหล่อนจะมาทำงานให้โดยไม่รับเงินเดือน เจฟยังไม่เห็นหน้านางสาวโอนีลมาก่อน แต่ผู้ดูแลคนที่เคยเป็นนักโทษมาก่อนรับรองได้บอกเขาเรื่องประวัติของหญิงคนนี้ในศาล
ใบหน้าอ่อนกว่าอายุของเจฟขมวดมุ่นด้วยต้องครุ่นคิดอย่างหนักและเอามือล้วงหาบุหรี่ในกระเป๋าเสื้อสักหลาดที่สวมอยู่ นิ่วหน้ายิ่งขึ้นเมื่อนึกได้ว่าเลิกสูบเป็นไปเป็นเดือนแล้ว เมื่อเหลียวมองไปรอบๆห้องทำงาน เขารู้สึกว่านี่เป็นครั้งแรกที่ห้องเล็กๆที่เต็มไปด้วยเครื่องเฟอร์นิเจอร์ปอนๆทำให้เขารู้สึกเศร้าโศกอย่างผิดปกติ เขาเสียเวลากับสถานที่เรียกว่า "กู๊ดเชพปาร์ด" หรือ "คนเลี้ยงแกะ" หรือเปล่า เขาจะทำอย่างไรถ้าไม่มีอาหารเหลืออยู่เลย และตอนนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตู
"เชิญครับ" เขาร้องบอก
ร่างเพรียวของหญิงวัยสาวในเสื้อสูทสีเลือดหมูกับกระโปรงดำก้าวเข้า หล่อนเข้ามายืนตรงหน้าโต๊ะทำงานของเจฟ ยิ้มหวานให้เขา

"สวัสดีค่ะ มิสเตอร์เจฟ เธอร์นเนอร์ใช่ไหมคะ?" หญิงสาวเอ่ยขึ้น "ดิฉันคือ มอรีน โอนีล ค่ะ ผู้ดูแลผู้พ้นโทษไม่ได้บอกหรือคะว่าดิฉันจะมาเช้านี้?"
ชายหนุ่มพยายามซ่อนสีหน้าที่แสดงถึงความแปลกใจ เขาคาดว่าจะเห็นหญิงคนหนึ่งที่กร้านชีวิตและอายุมากกว่านี้ หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่น่าจะอายุเกินยี่สิบห้าปี ผมสั้นสีเข้มนั้นมีใบหน้างามราวนางฟ้า ดวงงามตาสีฟ้าใสกระจ่างอย่างน่าทึ่ง เสียงของหล่อนมีสำเนียงนิดๆที่เจฟทายว่าคงเป็นสำเนียงไอริช เขารู้สึกเก้อนิดๆเมื่อลุกขึ้นไปดึงเก้าอี้มาวางให้หล่อนตรงหน้าโต๊ะทำงาน
"เชิญนั่งครับ มิสโอนีล" เขากล่าว
หญิงสาวนั่งลง ประสานมือไว้บนตักและมองหน้าเจฟอย่างมีความหวัง เขากระแอมเล็กน้อย
"มิสซิสฟอสเตอร์ ผู้ดูแลนักโทษบอกเพียงว่าคุณเคยอยู่ที่คุกหญิง "บรูคไซด์" มิสโอนีล...อยากถามว่าทำไมคุณอยากจะทำงานที่ "กู๊ดเชพปาร์ด" ครับ?"
"เอ้อ...ก็เป็นเงื่อนไขที่ทำทัณฑ์บนไว้ค่ะ ดิฉันต้องทำงานให้สาธารณะสองเดือน การช่วยให้คนยากไร้มีอาหารกินน่าจะเป็นการทำงานให้สาธารณะที่ดี คุณเห็นด้วยไหมคะ?"
"อ้อ...ขอบอกตรงๆนะครับ มิสโอนีล..."
"เรียกดิฉัน มอรีน เถิดค่ะ"
"ครับ มอรีน เข้าใจว่าคุณถูกจำคุกสามครั้ง หนึ่ง...ในข้อหาขายความลับ และสองครั้งในข้อหาเขียนเช็คเด้ง ผมจะมีปัญหาหรือเปล่าถ้าปล่อยให้คุณทำงานที่นี่?"
ริมฝีปากล่างของหญิงสาวสั่นและดวงตาสีฟ้านั้นเริ่มปริ่มด้วยน้ำตา
"ดิฉันไม่ได้ภูมิใจกับเรื่องอดีตหรอกค่ะ มิสเตอร์เธอร์นเนอร์ อยู่ในคุกทำให้ฉันมีเวลาคิดมากมาย อยากจะกลับตัวเป็นคนดีเสียที ถ้ามีจิตเมตตาบ้างก็ให้โอกาสดิฉันเถิดนะคะ ดิฉันจะไม่ลืมบุญคุณเลยค่ะ"
เจฟรู้สึกราวกับเขาถูกจับได้ว่าใจร้ายไปเตะลูกสุนัขที่น่าสงสาร

"เอ้อ...ก็ไม่อยากดุดันอะไรหรอกครับ" เขาลังเล "ก็อยากได้แรงงานครับ เอาละ...เริ่มพรุ่งนี้ได้หรือเปล่า?"
หญิงสาวส่งยิ้มชนิดแม้แต่หัวใจในสัตว์ประหลาดที่ถูกสลักจากหินก็จะละลายได้มาให้ชายหนุ่ม
"แน่นอนค่ะ กราบขอบคุณค่ะ มิสเตอร์เธอร์นเนอร์ สาบานเลยค่ะ ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่"
เวลาผ่านไปได้สองสัปดาห์ เป็นสองสัปดาห์ที่เจฟต้องยอมรับว่า ชอบการทำงานและการปฏิบัติตัวของมอรีน ทุกเช้าหญิงสาวมาถึงตรงเวลาและเข้าทำงานในห้องเก็บของอย่างขยันขันแข็ง ทำงานอย่างอื่นที่ถูกจ่ายมาให้อย่างไม่เกี่ยงงอน ไม่ว่าจะเป็นการเรียงกระป๋องอาหารให้เรียบร้อย กวาดพื้น หรือแค่เป็นงานช่วยครอบครัวที่เดือดร้อนเลือกอาหารใส่ถุง มอรีนมีหน้าตาสดชื่น และเป็นมิตรเสมอ ผู้คนที่เข้ามาขอความช่วยเหลือล้วนแต่รักและชื่นชมหญิงสาว เมื่อเจฟได้ยินเสียงหญิงสาวพูดคุยและหัวเราะเสียงใสกับคนร่วมงาน เขารู้สึกแปลกๆ อิจฉาใช่ไหม...อา...เป็นไปไม่ได้หรอก
มอรีนทำงานได้อย่างดีเสียจนเจฟรู้สึกเสียใจที่มีข่าวร้ายจะบอก เขาพยายามเลื่อนการบอกข่าวร้ายออกไปนานที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ จนกระทั่งเช้าวันหนึ่งเขาตระหนักว่า ยังไงๆก็ต้องเผชิญหน้าเรื่องร้ายนี้และบอกหญิงสาวไปตามตรง เขาสั่งให้หญิงสาวมาพบเขาที่ห้องทำงาน มอรีนก้าวเข้ามาในห้องทำงานและยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม
"สวัสดีค่ะ หัวหน้า" เสียงใสหวาน "วันนี้อากาศดีมากใช่ไหมคะ?"
"อย่าเรียกผมว่าหัวหน้าเลยครับ ผมชื่อ เจฟ"
"ค่ะๆ เจฟ ชื่อเพราะนะคะนี่ ภรรยาคุณคงชอบชื่อนี่แน่นอน"
"ผมเป็นโสดครับ"
"อุ๊ย จริงหรือคะ? งั้นก็เพื่อนสาวก็แล้วกัน"
"เพื่อนสาวหรือแฟนก็ไม่มีครับ"
"อืม...ไม่น่าเชื่อ เจฟ หนุ่มหล่ออย่างคุณ เอ้อ...คุณไม่เป็น..."
"เกย์หรือ? เปล้า...ไม่มีทาง ก็เตรียมจะแต่งงานอยู่แล้ว จนเมื่อสามเดือนที่แล้ว"
"เกิดอะไรขึ้นคะ?" เสียงตื่นเต้น
เจฟอึ้งไป เขาไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัวกับคนงานที่นี่ แต่...มอรีนดูไม่เหมือนคนอื่นเลย
"แครอล-คู่หมั้นของผมเขาขอเลิกครับ" เขาพูด "ไม่ต้องการแต่งงานกับผู้ชายอย่างผมที่ใช้ชีวิตอย่างไม่มีประโยชน์ที่ธนาคารอาหารสำหรับคนจน เมื่อผมมีโอกาสที่จะไปเป็นหนุ่มนักการเงินได้อย่างแท้จริง"
มอรีนพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
"คู่หมั้นเก่าของคุณไม่เข้าใจหรอกค่ะว่า งานอย่างนี้ทำให้เราภูมิใจ และอิ่มใจสักแค่ไหน ดิฉันหมายถึงงานที่ทำให้ชีวิตคนดีขึ้นน่ะค่ะ"
"ขอบคุณที่พูดอย่างนั้นครับ มอรีน มีคนไม่กี่คนหรอกครับที่เข้าใจอย่างนั้น"
มอรีนประสานสายตาอย่างตรงๆ กับเจฟ และโน้มตัวมาใกล้เขาอีกนิด
"นี่เจฟ เคยมีใครชมคุณบ้างไหมคะว่าคางของคุณช่างน่าดูเหลือเกิน?"
"เอ้อ...ขอบคุณครับ แต่...มอรีน ผมต้องบอกอะไรคุณนะครับ คุณจะทำงานสาธารณะที่ทำทัณฑ์บนไว้จนครบสามเดือนกับเราไม่ได้แล้วครับ ผมต้องให้คุณออกไป"
สิ้นประโยคนั้น อุณภูมิในห้องดูเหมือนจะเย็นลงหลายองศา
"ดิฉันทำงานไม่ดีหรือคะ?" หญิงสาวถาม
"คุณทำงานดีมากครับ มอรีน ไม่ใช่เรื่องที่คุณทำหรอก แต่ผมจำเป็นต้องให้ทุกคนออก เพราะเรากำลังจะไม่มีอาหารเหลือเลยในโกดัง ถ้าไม่มีก็ต้องปิด ผมไม่มีปัญญาไปโฆษณามากมายได้เพราะงบประมาณน้อยนิดเกินไป พยายามใช้เงินไปทางโฆษณาทางวิทยุและหนังสือพิมพ์รายวันเมื่อพอจะทำได้ แต่การบริจาคก็มีเพียงเล็กน้อย รู้สึกว่าไม่มีใครสนใจเราเลย"
สีหน้าของมอรีนดีขึ้น
"เห็นเหมือนกันค่ะว่า ของในชั้นต่างๆชักน้อยลงทุกวัน" หญิงสาวกล่าว "อะไรบ้างล่ะคะที่จำเป็นที่สุด?"
"ทุกอย่างเลยครับ แต่ผมว่าตอนนี้นมผงเป็นของจำเป็นที่สุด ครอบครัวจนๆที่มีเด็กเล็กๆต้องการธาตุแคลเซียมมาก เมื่อก่อนที่นายแจ็ค ฮิกกินส์ เป็นผู้จัดการของฟาร์มนม "ไดอามอนด์ เดรี่ยส์" เขาเคยส่งนมผงที่ขายไม่ได้เพราะเวลาจวนจะหมดมาให้มากมาย แต่แจ็คหัวใจวายเมื่อหลายเดือนก่อน นายแฟรงค์มาทำแทน เขาเอานมผงไปขายให้บริษัททำอาหารสุนัข เหตุนี้คล้ายๆกันกับบริษัทอื่นๆที่เคยบริจาคให้เรา พวกเขาหาวิธีทำกำไรกับสิ่งของที่เราเคยได้รับจนทำให้เรามีอาหารในโกดังน้อยลงทุกที"
หญิงสาวมีสีหน้าเงียบขรึม ครุ่นคิดอยู่สักนาทีหนึ่ง เงยหน้าขึ้น และเอื้อมมือไปแตะที่แขนของชายหนุ่มพลางยิ้มให้
"บางครั้งดิฉันชักชวนและกระตุ้นผู้คนได้ดีนะคะ เอาอย่างนี้นะคะเจฟ คุณเอารายชื่อและโทรศัพท์ของผู้จัดการบริษัทเหล่านั้นมาให้ดิฉันดีไหมคะ? ดิฉันจะลองดูสิว่าจะทำอะไรได้บ้าง อย่างน้อยก็ไม่ทำให้สถานการณ์เลวลงหรอกค่ะ ถ้าดิฉันจะลองสักนิด"
"ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกครับ" เจฟเสียงเศร้า " ผมแทบจะอ้อนวอนเขาแล้วครับแต่พวกเขาก็ปฏิเสธเฉยเลย แต่...คุณจะลองก็ได้ ผมมีรายชื่อพร้อมเบอร์โทรศัพท์...นี่ครับรายชื่อ โชคดีนะครับ มอรีน"
เมื่อ มอรีนออกมาจากห้องทำงานของเจฟ หญิงสาวเปิดกระเป๋าถือ หยิบสมุดจดชื่อและที่อยู่เล่มเล็กๆออกมา พลิกแต่ละหน้าอย่างรวดเร็ว พลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เมื่อหาที่ต้องการพบแล้ว หญิงสายก็กดเบอร์มือถืออย่างไม่รีรอ
"เฮลโล่ นี่คุณเลียม โนแลนใช่ไหมคะ? โอ...ที่รักคะ นี่มอรีน โอนีลค่ะ ค้ะ...นานแล้วที่เราไม่ได้พูดกันเลย อะไรนะคะ? อุ๊ย...แน่อยู่แล้วค่ะ ฉันจำวันเวลาเก่าๆที่เมืองเบลฟัสต์ได้แน่นอน แสนดีนะคะตอนนั้นน่ะ ใช่ไหมคะที่รัก? นี่เลียมขา... หวานใจของฉัน ที่จริงไม่อยากโทรมารบกวนเล้ย แต่จำเป็นค่ะ ต้องการให้คุณช่วยหน่อยนะคะ พบฉันที่บาร์ชื่อ "ดันน์" ได้ไหมคะ? จะได้ดื่มเบียร์สักเหยือกและคุยกันสักนิด อ้อ...ได้หรือคะ? แหม...เลียม คุณช่างดีเหลือเกิน สักทุ่มหนึ่งนะคะ เจอกันค่ะ"
---
สองสัปดาห์ต่อมา เจฟนั่งหน้ามุ่ยอยู่ที่โต๊ะทำงานเมื่อมอรีนเดินเข้ามา หญิงสาวทำให้หนุ่มสะดุ้งเมื่อนั่งลงไขว่ห้าง เขาพยายามไม่เหลือบมองท่อนขาที่ลอดออกมาจากกระโปรงสั้นๆที่เลื่อนขึ้นไปอีกแทบจะถึงสะโพก
"เป็นไงคะ เรื่องการบริจาคอาหารที่เข้ามา?" มอรีนเอ่ยปากถาม
เจฟพยายามกลั้นยิ้ม แต่ทำไม่ได้ ต้องเผยอริมฝีปากยิ้มกว้าง
"มอรีน คุณได้ทำสิ่งมหัศจรรย์เชียวละครับ นายแฟรงค์ ฮิกกินส์ มาหาผมเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มาขอโทษขอโพยเรื่องไม่ส่งนมผงมาให้เรา และสัญญาว่าจะส่งมาให้อย่างน้อยจำนวนหนึ่งแต่ละเดือน ตั้งแต่นี้ต่อไป"
"ดีค่ะ ดีมาก เจฟ นึกแล้วว่าต้องแก้ปัญหาได้"
"แต่ผมงงนะครับ แฟรงค์เดินลากขาอย่างไงชอบกล ผมถามเรื่องขาเจ็บหรือเขาทำสีหน้าตกใจมากเลย พึมพำอะไรสักอย่างเรื่องไม่อยากมีเรื่องกับใคร ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น"
"ดิฉันนึกทายไม่ออกหรอกค่ะ เจฟ"
"เราเพิ่งได้รับนมผงจากแฟรงค์วันนี้เองครับ รายการสินค้าบอกว่ามียี่สิบรัง แต่เราได้แค่สิบสองเท่านั้น"
"คงมีใครนับผิดไปค่ะ" มอรีนตอบ "ไม่ต้องไปถามมิสเตอร์ฮิกกินส์ดีกว่าค่ะ"
"ไม่ละครับ แต่มีเรื่องอีกเรื่องนะครับ มอรีน ผู้จัดการหลายบริษัทได้โทรฯมาบอกว่าจะส่งของมาให้ด้วย แปลกจริงๆ แต่ละคนมีเสียงที่สั่นๆ คุณไปบอกคนเหล่านี้ว่าอย่างไรครับเมื่อโทรฯถึงเขาน่ะ?"
มอรีนเอื้อมมือไปแตะแขนของเจฟ
"เจฟคะ ฉันเชื่อเสมอว่า คนนั้นมีความดีที่หัวใจทุกคน เพียงแต่บางครั้งอาจจะหลงลืมไปว่า อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิต ดิฉันเพียงแต่อธิบายความสำคัญของธนาคารอาหารที่เราจำเป็นจะต้องใช้ช่วยคนที่กำลังอดอยาก ทำให้พวกเขาเห็นไงล่ะคะ ว่าการช่วยเป็นสิ่งที่ถูกต้องควรกระทำ ก็เท่านั้นเองค่ะ"
"ครับ คุณช่างทำได้อย่างมหัศจรรย์จริงๆ" เจฟกล่าวอย่างจริงใจ "ถ้ามีความคิดอย่างอื่นอีกละก็ ช่วยบอกผมด้วยนะครับ"
มอรีนประสานสายตากับเขาด้วยดวงตาของแมวที่กำลังมองเห็นปลาซัลมอนน่ากิน

"เจฟขา" เสียงหวานนุ่ม "ไปทานอาหารเย็นที่อพาตร์เมนท์ของฉันเย็นนี้นะคะ ดิฉันจะให้ข้อคิดที่จะทำให้คุณประหลาดใจเป็นล้นพ้นเลยค่ะ"

จากเรื่อง "Milk of Human Kindness"
จบบริบูรณ์
เมื่อวันที่ : 23 พ.ย. 2551, 22.19 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...