...ก่อนไปเที่ยวตั้งใจว่า เที่ยวแล้วจะกลับมาเล่าเรื่องพร้อมรูปอย่างละเอียดเลย แฮ่ แต่เอาเข้าจริง ๆ เที่ยวเพลินค่ะ เพลินซะลืมถ่ายรูป รูปที่ได้มาจึงมีแต่วิวในช่วงที่นั่งพักผ่อนสบาย ๆ ค่ะ...
สวัสดีค่ะ
ก่อนไปเที่ยวตั้งใจว่า เมื่อกลับมาแล้ว ก็จะนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟัง ตอนแรกตั้งใจไว้เลยนะคะ ว่าจะถ่ายรูปทุกจุดแล้วกลับมาเล่าให้ฟังอย่างละเอียดเลย แฮ่ แต่เอาเข้าจริง ๆ เพลินค่ะ เพลินซะลืมถ่ายรูปเลย รูปที่ได้มาจึงเป็นแต่วิวในช่วงที่นั่งพักผ่อนสบาย ๆ เท่านั้นค่ะ
พญาไฟไปพักที่ koh tao cottage resort ค่ะ เริ่มจาก 2 รูปแรกนี้เลยนะคะ ถ่ายจากบริเวณหาดหน้าที่พักค่ะ
ทำไมถึงพักที่นี่เหรอคะ คงต้องเริ่มเล่าตั้งแต่เปลี่ยนแผน จากตอนแรกว่าจะไปเขมร เกิดจะเปลี่ยนใจกระทันหันว่าอยากไปเกาะค่ะ ใครใครก็บอกว่า ใครเค้าไปเที่ยวเกาะกันหน้านี้ ตอนนี้น่ะฝนตกเกือบทุกวัน อย่าไปเลย เกาะน่ะ แม่ก็ไม่อยากให้ไปค่ะ แม้กระทั่งก่อนวันออกเดินทางแม่ยังบอกว่า เปลี่ยนใจเถอะลูก แฮ่ แต่งานนี้ไม่เปลี่ยนใจแล้วค่ะ ตรงหน้าดิ่งไปเกาะเต่าเลย
หลังจากที่ถามไถ่เพื่อนฝูง ดูเวปไซท์ และก็หาหนังสือมาอ่าน ในที่สุดก็ได้ข้อมูลจากหนังสือ "เที่ยวทั่วไทยไปกับนายรอบรู้" พญาไฟหาข้อมูลไม่ค่อยเก่งหรอกค่ะ หาไปหามา ก็เลยขี้เกียจหา เอาข้อมูลจากในหนังสือนี้เลยละกัน
หนังสือบอกว่า ไปได้ทั้งทางรถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน โอ้ย สะดวกสบายค่ะ ก่อนอื่น ก็ตัดเครื่องบินทิ้งเลยค่ะ กระเป๋าฉีกแน่ เก็บค่าเครื่องบินไปเป็นค่าที่พักดีกว่า จะได้พักอยู่หลายวันหน่อย
แล้วพญาไฟก็เจอว่า บริษัท เอกวิญญ์ทัวร์ ตั้งอยู่ที่บริเวณโรงแรมเวียงใต้ อยู่ที่ถนนที่ขนานกับถนนข้าวสารน่ะค่ะ (จำชื่อถนนไม่ได้แล้ว แต่หาไม่ยากหรอกค่ะ) มีบริการแบบซื้อตั๋วรถ รวมตั๋วเรือด้วยเลยค่ะ เป็นเรือเฟอร์รี่ ดูแล้วปลอดภัยดี ในหนังสือบอกว่า 600 บาท แต่วันที่ไปซื้อจริง ราคาก็ 480 บาทต่อคนต่อเที่ยว เอาเลยค่ะเพื่อความสะดวก ขี้เกียจไปตระเวนหาเรือต่ออีกทอดหนึ่ง ใจก็ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ว่า ฝนจะตกมั้ยน้อ เรือจะไปได้มั้ยน้อ แต่เอาหล่ะเดินหน้าแล้วต้องต่อให้จบ ตกลงก็เลยซื้อของบริษัทนี้แหล่ะ
นอกจากเอกวิญญ์ทัวร์แล้ว ก็ยังมี บริษัทขนส่ง โชคอนันต์ทัวร์ สุวรร์นทีทัวร์ ศรีสุเทพทัวร์ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 7-8 ชม.ค่ะ
วันออกเดินทางใจก็ยังหวั่นตลอด ว่าฝนจะตกมั้ยน้า แต่เห็นมีคนมาร่วมชะตากรรมเดียวกันก็ใจชื้นแล้วค่ะ ฮา มีคนมาช่วยแชร์ความเสี่ยง ทั้งรถเป็นฝรั่งทั้งนั้น มีพญาไฟเป็นคนไทยคนเดียว เอาวะ อย่างน้อย ถ้าไปถึงที่ท่าเรือแล้ว ฝนตก เรือออกไม่ได้ ก็จะได้มีเพื่อนฝรั่งนั่งเศร้า อีก 20 กว่าคน ค่ะ ทั้งรถขนาด 32 ที่นั่งที่พญาไฟไป มีผู้ร่วมเดินทางประมาณ 20 กว่าคนนี้แหล่ะค่ะ รถนี้เป็นรถ 2 ชั้น เบาะนุ่ม แอร์เย็นฉ่ำค่ะ
และแล้ว ก็ออกเดินทางจากกรุงเทพเวลา 21.00 น. พร้อมกับสายฝนที่ตกมาตลอดทาง ถึง ชุมพร ที่ท่าเรือ ก็ประมาณ 04.00 น. ค่ะ นั่งตบยุงอีก 3 ชม. รอเรือออกตอน 07.00 น. เฮ้อ สบายใจ พอเริ่ม 6 โมงเช้า ฟ้าเริ่มสว่าง พอ 7 โมงเช้า ยิ้มเลยค่ะ เรือไปเกาะได้แน่ สบายใจหายห่วง อิอิ ก็ฟ้าออกจะใส๊ใส เสียดาย ไม่ได้ถ่ายรูปที่ท่าเรือมาให้ดูค่ะ
ถึงท่าเรือบ้านหาด บนเกาะเต่าก็ประมาณ 10.00 น.ค่ะ มีรถจากที่พักมารับ อ้อ ลืมเล่าค่ะ (ลืมเบียร์ด้วย) ตอนแรกก่อนมาก็กะว่าจะซื้อตั๋วรถเรืออย่างเดียว แล้วมาหาที่พักเอาดาบหน้า แต่ว่าที่เอกวิญญ์เค้ามีคอนแทคอยู่กับเกาะเต่า คอทเทจ รีสอร์ท อยู่ ดูจากรูปแล้ว ก็น่าจะสบายดีค่ะ ด้วยความที่รักความสบายค่ะ เลยตกลงจองที่พักนี้ 2 คืน เป็นห้องพัดลมราคาคืนละ 930 บาทค่ะ รวมอาหารเช้าด้วย ถ้าไม่รวมอาหารเช้า ก็หักออกไป 120 บาทค่ะ คิดว่าราคานี้ก็ OK เพราะว่า มีไฟฟ้าตลอด 24 ชม. ที่อื่น ที่ราคาถูกกว่านี้ก็มีนะคะ เริ่มตั้งแต่ราคา 300 บาท แต่ต้องสอบถามให้ดี ๆ ว่า มีไฟฟ้าให้ใช้อย่างไรบ้าง เปิดปิดกี่โมง เพราะไฟที่นี่เค้าบอกว่าแพงค่ะ ต้องปั่นเอง ห้องน้ำแยกหรือรวม เมื่อพญาไฟไปถึงที่พักแล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ เพราะบ้านอยู่ติดหาดเลย ทำเลดีมาก น้ำไฟพร้อม ถูกใจสมราคาค่ะ
วันแรกที่ไปถึง ยังไม่มีการเคลื่อนไหวค่ะ แฮ่ นอนพักอยู่กับบ้านก่อน ถ่ายรูปและเริ่มสำรวจบริเวณรอบ ๆ บ้านค่ะ ถ้าใครชอบที่พักสงบ ๆ แนะนำค่ะ ว่า ที่พักที่นี่สงบดีมาก ที่นี่อยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะ เรียกว่า อ่าวโฉลกบ้านเก่าค่ะ
เช้าวันถัดมาก็ลุยเลยค่ะ ซื้อ package ดำน้ำแบบ snockle ราคาคนละ 550 บาท เป็นเรือแบบมีหลังคา ถ้าราคาย่อมลงมาหน่อยก็เป็นเรือเปิดประทุนฮ่ะ no roof นะคะ 400 บาท เรือพาไปดำน้ำรอบเกาะเต่าค่ะ เริ่มจากท่าเรือบ้านหาด วนไปทางขวาของเกาะ จุดชมวิวแรก คือก้อนหินค่ะ มีชื่อว่า buddha rock ลองดูในรูปนะคะว่าทำไมจึงชื่อนี้
ต่อมาคือ shark point แต่เนื่องจากในวันนั้นคลื่นบริเวณ shark point ค่อนข้างแรง จึงเว้นไม่ดำน้ำในจุดนี้ จากนั้นก็ไปอ่าวลึก เริ่มดำแรกที่นี่แหล่ะค่ะ ดำจริง ๆ นะคะ ตอนนี้พญาไฟตัวงี้ดำเชียว
หลังจากดำผุดดำว่ายอยู่ที่ อ่าวลึกได้พักหนึ่ง ก็ไปจุดดำน้ำอื่น ๆ ค่ะ อ่าวหินวง อ่าวกล้วย อ่าวมะม่วง และจุดสุดท้ายไปที่ เกาะนางยวนค่ะ สวย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จะบรรยายยังไงได๊ ต้องไปดูเองค่ะ พญาไฟมีกล้องถ่ายรูปใต้น้ำแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งไปด้วย 1 อัน ถ่ายหมดไปตั้งแต่ได๊ฟ แรกแล้วค่ะ แล้วก็ต้องมาเสียใจ เพราะจุดที่สวยที่สุดอยู่ที่ บริเวณเกาะนางยวนนี่แหล่ะค่ะ เนี่ยแหล่ะน้า พบไม้งามเมื่อขวานบิ่น ก็เล่นชักภาพซะหมดไปแล้วนี่ ตอนนี้เพื่อน ๆ ก็จินตนาการเองนะคะ ว่าสวยขนาดไหน ใครคิดไม่ออกก็ไปดู นีโม่ละกัน อิอิ (ดูมาแล้ว กลับมาถึงกรุงเทพก็ต่อที่ EGV ซีคอน เลยค่ะ)
อ้อ เดี๋ยวนี้ถ้าจะขึ้นเกาะนางยวนต้องเสียสตางค์ด้วยนะคะ คนไทย 30 บาท คนต่างชาติ 100 บาทค่ะ คนเรือบอกว่า ที่เกาะนางยวนนี้เป็นของราชพัสดุ และตอนนี้ได้มอบให้คนกลุ่มหนึ่งเช่าค่ะ พญาไฟไม่ทราบรายละเอียดมาก ใครทราบช่วยเล่าให้ฟังด้วยนะคะ คนเรือเล่าว่า เหตุการณ์นี้เริ่มตั้งแต่ประมาณ 2-3 เดือนที่แล้วค่ะ มีเรื่องใหญ่โตด้วยนะคะ ถึงขนาดยิงกันด้วย กึ๋ยส์ สยอง เค้ามีการใช้ทุ่นกั้นเป็นรั้วรอบเกาะ พญาไฟก็ได้แต่ดำดูปะการังรอบ ๆ ค่ะ ไม่ได้ขึ้นเกาะหรอก
หลังจากดำน้ำกลับมาแล้ว ก็เป็นอันต้องพักผ่อน อยู่เฉย ๆ ไปเลย 2 วันเต็มค่ะ ก็หลังของพญาไฟเจอแดดเผาซะเกรียมเลยนี่คะ นี่ขนาดทาโลชั่นแล้วนะเนี่ย ตอนดำน้ำ ก็ดำซะเพลินไม่รู้สึกว่าร้อนเลยค่ะ มัวแต่หลงไหลไปกับฝูงปลาและปะการัง 2 วันนี้จึงเป็นวันนอนพักผ่อนอยู่กับบ้านค่ะ เดินเล่นแต่บริเวณหาดใกล้ ๆ อ้อ ไปเยี่ยมเยียนแถวหาดทรายรีมาด้วย ไม่ใช่ทรายรีที่ชุมพรนะคะ แต่เป็นทรายรีที่เกาะเต่าเนี่ยแหล่ะค่ะ
นี่เป็นรูปบริเวณหาดทรายรีค่ะ มีรูปปั้น และพระปรมาภิไธย ของ ร.5 ทราบว่าท่านเคยเสด็จมาประทับที่นี่ ส่วนรายละเอียดหาอ่านจากเวปไซท์อื่น เองนะคะ อิอิ พญาไฟเป็นแต่ถ่ายรูปและเที่ยวเท่านั้น
การเดินทางบนเกาะจะใช้รถ 4WD ค่ะ เพราะสภาพพื้นที่เป็นเขาค่ะ ถนนเส้นหลักดีแล้ว เป็นถนนคอนกรีต แต่ ยังมีอีกหลายเส้นที่ยังมีสภาพเป็นดินแดงค่ะ ไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ดูอีกแล้ว เพราะมัวแต่พะวงกับการนั่งโยกเยก และนอกจากเกาะเต่าแล้ว ยังต้องเกาะรถให้มั่นอีกด้วยนะคะ ไม่อยากลงก่อนถึงจุดหมายค่ะ
แหล่งชุมชนบนเกาะนี้ก็จะอยู่บริเวณท่าเรือ เรียกว่า บ้านหาด และบริเวณหาดทรายรีค่ะ ที่นี่จะมีร้านอาหารและแหล่งช๊อปปิ้งประเภทเสื้อผ้า กระเป๋าเป้ ซีดี ดีวีดี เพลงหนัง ราคาถูกมากมาย จนถึงเวลาประมาณ 21.00 น่ะคะ ร้านก็จะเริ่มปิด
หากใครชอบทานอาหารฝรั่งประเภทพิซซ่านะคะ แนะนำเลยค่ะ ว่าถ้ามีโอกาสไปเกาะเต่าก็ต้องแวะที่ร้าน farango ให้ได้นะคะ อร่อยมากกกกกกกกก พญาไฟการันตีค่ะ
วันที่ 5 หลังหายแสบแล้วค่ะ ก็เลยซื้อ package spa ของ spa แห่งหนึ่ง ตั้งใจมาตั้งแต่กรุงเทพแล้ว ว่าจะต้องลองเข้า spa ดูให้ได้ว่าเค้ามีอะไรบ้าง อิอิ ไม่บอกหรอกว่าที่นี่ชื่ออะไร ถ้าใครมาถึงเกาะเต่าแล้วก็ต้องรู้จักที่นี่แหล่ะค่ะ เพราะ spa แห่งนี้จัดว่าระดับ premier เลยค่ะ spa นี้ตั้งอยู่บนเขาค่ะ รูปนี้ถ่ายจากที่นี่แหล่ะค่ะ ได้วิวสวยงามเชียว
พญาไฟเลือก package นวดน้ำมันค่ะ ราคา 950 บาทหรือไงเนี่ยค่ะ ชักจะลืม ๆ แล้วไม่ค่อยแน่ใจ ประกอบด้วย steam souna, aloe vera body wrap, face massage และ oil massage ค่ะ กี๋ยๆๆๆ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่า oil massage เค้านวดกันยังไง อิอิ ใครอยากทราบต้องไปลองเองค่ะ ม่ายบอกร้อกว่าเค้านวดยังไง นอกจากนี้ก็ยังมีอีก 2 pacakge เป็น thai massage และอีกอย่างหนึ่งคือ aromatherapy care with herble steam pack
และนี่คือรูปที่พักที่ koh tao cottage resort ค่ะ พญาไฟนำรูปเหล่านี้มาจากเวปไซท์ของเค้าค่ะไม่ได้ถ่ายเองหรอก แบบว่าลืมอีกแล้วน่ะค่ะ
เล่ามาซะพอประมาณ สมควรแก่เวลาต้องจบบันทึกการเดินทางครั้งนี้ไว้ก่อน รวมแล้ว ก็ 5 คืน 6 วันค่ะ เป็นวันหยุดที่วิเศษสุด สุด
ใครอยากไปเที่ยวเกาะเต่าบ้าง ยกมือขึ้น !!!
ทริปหน้าถ้ามีอีก จะเก็บรายละเอียดให้ได้มากกว่านี้ค่ะ ตอนนี้ก็ได้แผนคร่าว ๆ แล้วว่าอยากไปทะเลตรัง เกาะลิบง เกาะไหง เกาะรอก เกาะเชือก เกาะม้า ว้าววววว ไปทะเลกันดีกว่า
อ้อ! แผนที่จะไปเที่ยวเขมรเพื่อนบ้านก็ยังคงอยู่นะคะ ต้องหาโอกาสไปเที่ยวให้ได้ด้วย

เมื่อวันที่ : 11 ต.ค. 2546, 18.01 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...