นิตยสารรายสะดวก  Fiction  ๑๗ กรกฏาคม ๒๕๕๐
ยอดกำลังใจ
อรทัย
...ชอนลืมตาขึ้น​​ เห็นพื้นเพดานของอาคาร เรา​​กำลังอยู่​​​​ที่ไหน ทำไมมีคนมายกเราออกจากเตียง จึง​​ได้เหลือบ​​ไปเห็น เจ้าหน้า​​ที่ประจำเปลของโรงพยาบาล ​​กำลังร...
ชอนลืมตาขึ้น​ เห็นพื้นเพดานของอาคาร เรา​กำลังอยู่​​ที่ไหน ทำไมมีคนมายกเราออกจากเตียง จึง​ได้เหลือบ​ไปเห็น เจ้าหน้า​ที่ประจำเปลของโรงพยาบาล ​กำลังรวบผ้าปู​ที่นอนสีเขียว​และญาติจำนวน 4 คน ​กำลังยกร่างของเราออกจากเตียง​ซึ่งด้านหนึ่ง​มีเหล็กกั้น ​และเห็นเตียงคนป่วย​เป็นแถว ​เพื่อนำเรา​ไปวางบนรถเข็น

เรามองอย่างสงสัย เอะ ​เป็น​ที่ไหนกันแน่ ไม่เคยเห็นมาก่อน ขณะนั้น​​ได้ยินเสียงของญาติ​และ​เพื่อน ๆ​ เจ้าหน้า​ที่พยาบาล​กำลังลากรถนำร่างเราออก​ไปจากอาคาร ​เป็น​ที่ไหม ไม่เคย​ได้พบ​ได้เห็นมาก่อน จึงอดสงสัยไม่​ได้ จึงถาม​ไปว่า

"​ที่ ม. อ. หรือ​ที่ไหนกัน" มีเสียงปฏิเสธว่า "ไม่ใช่ ​เป็นโรงพยาบาลพัทลุง อาคารหลังสร้างใหม่"

เจ้าหน้า​ที่พยาบาลนำเรา​ไปห้องพิเศษ ชั้นเดียวกัน​และอาคารเดียวกัน ออกจากห้องรวม​ไปห้องพิเศษ ​ซึ่ง​เป็นห้องสำรองสำหรับพยาบาล มีเพียงห้องเดียว​ที่ไม่ค่อย​ได้เบิดบริการ​โดยทั่ว​ไป

​ที่​สามารถ​ใช้บริการห้องพิเศษนี้​ได้ ​เพราะมีญาติ​และลูกหลาน​เป็นพยาบาล ​เป็นเภสัช ​และเจ้าหน้า​ที่อีกหลายคน จึง​สามารถขอร้องต่อนายแพทย์ให้เปิดบริการให้​ใช้​ได้

เรายังมึนงงอยู่​ทำไม​ต้องมาอยู่​โรงพยาบาล​ได้ ​เมื่อเจ้าหน้า​ที่นำยังห้องพิเศษ ​ได้นำรถเทียบเตียง​และช่วยกันยกเราลงวางบนเตียง รู้สึกเจ็บ​ที่แขน ข้อมือ​ทั้งสองข้าง
​เมื่อ​เขาเปลี่ยนเตียงให้แล้ว​ ขณะนั้น​นาฬิกาของโรงพยาบาลบอก 4 โมงเย็นกว่า พยายามนึก จำภาำพ​ได้ว่า เรา​กำลังขี่รถจักรยานยนต์คู่ชีพแลรู้สึกง่วงนอนก่อนถึงบ้าน

เช้า​วันนั้น​ก่อนสว่างเรา​และญาติ​ได้เดินทาง​ไป​ที่แปลงปลูกยางพานา ​ได้เปลียน​ที่นา​เป็นแปรงปลูกยางพารา ​เพราะญาติบริเวณนั้น​​ได้เปลี่ยนนา​เป็นยางพาราหมดแล้ว​ หรือ​แต่ของเรา​กับของญาติผู้พี่อีกแปลงหนึ่ง​ ​ถ้าปล่อยไว้ ​จะปลูกข้าว​ได้ผลน้อย ​จะปลูกภายหลังก็​จะทำให้​ได้ผลน้อย

​ที่ดินแปลงนี้อยู่​ห่างจากบ้านประมาณ 15 กิโลเมตร ​เมื่อถึง​ที่ปลูกยาง​เป็นร่องประมาณ 300 ต้น​ได้ตักน้ำรถจากเช้า​ตรู่จน 10 โมง ​โดยตักน้ำขึ้น​จากบ่อดินยาวใส่ถังหิ้วน้ำ​ไปรดทุกต้น ​เพราะ​ความแห้งแล้ง ​ได้รดน้ำต้นยางนี้มา 2 ครั้งแล้ว​ เวลากลับบ้านมีญาตินั่งท้ายจักรยานยนต์ ​พร้อมแบกจอบกลับบ้าน

"ทำไม​เป็นอย่างนี้" ญาติตอบว่า พี่ขับรถเร็ว​และรถวิ่งลง​ไปในคู ญาติบอกว่า​ได้เตือนแล้ว​ ก่อนรถ​จะำไถลลงในคู

ญาติบอกว่า​เมื่อรถลง​ไปในคูข้างถนนแล้ว​รู้สึกตัว ว่าเสียงดังสะนั่นหวั่นไหวบริเวณศีรษะ ลุกขึ้น​นั่ง​เอามือลูบดู ไม่มีเลือก เห็นเรานอนหงาย ตาเหลือกลนอยู่​ในหมวกกันน๊อค หน้ากากพลาสติกแตกหมด ​เขายืนขึ้น​​แต่เจ็บเท้าข้างขวาอย่างแรง จึงตะโกนเรียกให้คนอยู่​บ้านใกล้มาช่วย ​แต่ก็ไม่เห็น​ใคร ก้มลงยกศีรษาะของเราไม่ให้ตะแคง พยายามขั้นมาบนถนน ตะโกนขอช่วยผู้คนให้มาช่วยเหลือ รถยนต์ขายของชำ 4 ล้อผ่านมา หยุด​และขอร้องให้​ไปบอกหลานบ้านใกล้ ๆ​ พอ​จะเลี้ยวรถจักรยานยนต์ก็มา​เขาจึงอาสา​ไปบอกให้ ขณะนั้น​หลานผู้หญิงคนหนึ่ง​ผ่านมา​พร้อม​กับ​เพื่อน ​ได้มาข่วยเหลือ​และชาวบ้านในบริเวณนั้น​มากันมากมาย​ ญาติอีกคนหนึ่ง​ขับรถยนต์ผ่านมา ​ได้นำส่งโรงพยาบาลประจำจังหวัด ​ซึ่ง​เป็นระยะทาง 13 กิโลเมตร​โดยประมาณ

ครั้งแรกไม่มี​ใครยกร่างของเรา จนรถยนต์​เขามาเทียบใกล้ ๆ​ จึง​พร้อมกันยกร่างของเราว่างบนรถ ​และญาติ​ที่บาดเจ็บ ​พร้อมด้วยญาติ​ที่มาพบ​ได้นั่ง​ไปด้วยให้ร่างอันไร้​ความรู้สึกนอนหนุนตัก​ไป เรียกชื่อ​ไป ทุกระยะ เขย่าร่างบ้าง ​เพื่อไม่ให้หมดสติในขณะนำส่งโรงพยาบาล เลือดไหลจากใบหน้า จากหู ปาก เปียง​ทั้งกางเกง หลานกลับจากขายน้ำยางมาพบ เธอจึง​แต่งตัวชุดกรีดยาง มียางพาราติดตัง มองแล้ว​น่ารังเกียจสำหรับบางคน ​แต่หลานสาวคนนี้ ​เขามีบุตร 2 คนไม่เคยดูดาย ​และประวัติช่วยเหลือ​ทั้งผู้​ที่​เป็นญาติ​และไม่​ใช้ญาติ​เมื่อ​ได้รับ​ความเจ็บป่วย หรือช่วยเหลือ​ได้ตาม​ความเหมาะสม ไม่เลือก​ที่รักชัง

ถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้า​ที่ห้องฉุกเฉิน​ได้พยามยามช่วยเหลือชีวิต​และทำบาดแผล ทำ​ความสะอาด ฉีดยา ฉายเอ็กเรส์ ด้วย​ความรวดเร็ว ​และสนใจ​เป็นอย่างยิง

ผู้​ที่พบเห็น​และผู้​ที่​ไปสำรวจสถาน​ที่ตกคูว่า อันตรายมาก คนเล่าว่า รถจักรยานเมื่่อลงในคูถนนชั้นมีก้อนหินโต ล้อหน้าชน​และติดหิน ท้ายรถเหวี่ยงวิ่งกลับปตามแนวถนน​ไปติดเชือก​และพุ่มราพาราข้างถนน ขณะนั้น​คนขี่รถลอย​ไปจากรถประมาณ 2 เมตรตกลงในพงหญ้า ​ถ้าเลย​​ไปข้างหน้าประมาณ 1 ฟุตก็​จะตกลงในหลุมสี่เหลียมลึกมีน้ำขังลึก ​และคนเจ็บลง​ระหว่างก้อนหิน ปลอดภัย อีกคนศีรษะลงบนก่อหญ้า เสี่ยงอันตราย​ที่สุด ​ซึ่งทุกคน​ที่พบเห็นถือว่า​เป็นบุญ หรือบุญช่วย ​ความดีมีจริง จึง​ได้ช่วยไว้

จากการ​ที่รถตกคูนั้น​ เราหลับใน ​คือรู้สึกง่วงมา่ก่อน ​เป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรน่า​จะ​ได้ พยายมยาม​ที่​จะไม่หลับ ​โดยการขยำมือ เคี้ยวปาก​และเร่งรถให้เร็วขึ้น​ จากปกติ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ​เป็น 90 กีโลเมตรต่อชั่วโมง ​เพราะก่อนนี้ก็ง่วงบ่อย พอวิ่งรถเร็วก็​จะหายง่วง ​เพราะ​ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตสูง

สำหรับวันนี้เราเหนื่อยมาก จึงทำให้หลับ​ได้ง่าย เกือบ​เอาชีวิต​ทั้ง​ไป​กับการหลับ

 

F a c t   C a r d
Article ID A-2362 Article's Rate 2 votes
ชื่อเรื่อง ยอดกำลังใจ
ผู้แต่ง อรทัย
ตีพิมพ์เมื่อ ๑๗ กรกฏาคม ๒๕๕๐
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ เรื่องสั้น
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๕๓๓ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๓ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม ๑๐
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : ศาลานกน้อย [C-11901 ], [000.000.000.000]
เมื่อวันที่ : 17 ก.ค. 2550, 11.22 น.

ผู้อ่าน​ที่รัก,

นิตยสารรายสะดวก​ ​และผู้เขียนยินดีรับฟัง​ความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดง​ความเห็น​ได้​โดยอิสระ ขอขอบคุณ​และรู้สึก​เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมี​ส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๒ : ปปป [C-11909 ], [58.147.117.43]
เมื่อวันที่ : 17 ก.ค. 2550, 21.14 น.

ผมอ่านไม่จบหรอกครับ​ อารมณ์มันสะดุดเยอะ จนล้ม​ไปเลย​ สะกดผิดเยอะมากเลย​ ทำให้ไม่อยากอ่านต่อ

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๓ : อรทัย [C-11911 ], [124.157.182.218]
เมื่อวันที่ : 17 ก.ค. 2550, 23.25 น.

คุณ ปปป
ขอบคุณมาก​ที่เสียสละเวลาอ่าน ​แม้​จะไม่จบ
ขอรับ​ความผิดพลาดด้วย​ความเต็มใจ
พยายามแก้คำผิด​ที่พบ ​แต่ทำไม่​ได้ จนใจมาก

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น