![]() |
![]() |
Silverfur![]() |
ผมทรุดตัวลงกับโซฟาก่อนสั่งค็อกเทลมาดื่ม บ๋อยคนนั้นคงจำลูกค้าขาประจำอย่างผมได้จึงรีบไปหาบาร์เทนเดอร์ทันที เขารีบนำค็อกเทลมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ ผมให้แบงก์สีม่วงเขาไปอย่างไม่เสียดาย
บ๋อยคนนั้นไหว้อย่างนอบน้อมก่อนจากไป ผมค่อยๆลิ้มรสน้ำอมฤตอย่างละเมียดละไม
คนเรานี่ง่ายจริงๆ ต่อให้แข็งดั่งเหล็ก เงินก็ยังง้างได้อย่างใจ
แสงไฟสลัวๆกับดนตรีเร่าร้อนทำให้บรรยากาศยามราตรีนี้น่าอภิรมย์ยิ่งนัก ผมเดินเข้าไปหาสาวสวยที่กำลังสะบัดความเครียดของตนทิ้งไปกับเสียงเพลงเหล่านั้น
"ว่าไงน้องสาว สนใจเต้นกับพี่มั้ย"
เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้น ผมถือว่านั่นเป็นคำตอบรับจึงร่วมวงกับพวกเธออย่างสนุกสนาน จนผมกำลังคิดว่าอยู่บนสวรรค์ก็ไม่ปาน
ผมลืมตางัวเงียเพราะฤทธิ์ค็อกเทล เมื่อคืนผมทำอะไรลงไปกันแน่ ผมมองไปรอบๆ เห็นสาวสวยคนเมื่อคืนนอนอยู่ข้างกายผม มีเพียงผ้าห่มสีขาวเท่านั้นที่ปิดบังร่างเปลือยเปล่าของผมกับเจ้าหล่อน
ผมยิ้มน้อยๆเพราะความดีใจอยู่ลึกๆ แม่นี่คงจะหลงเสน่ห์ผมไปอีกคนแล้ว ทำไงได้ คนมันทั้งหล่อทั้งรวย จะมีคนมาสนก็ช่วยไม่ได้ แต่ถึงไงผมก็ไม่คิดจริงจังหรอก ผู้หญิงก็แค่ดอกไม้ข้างทางเท่านั้นแหละ
ผมแต่งตัวแล้วเก็บของออกมาจากห้องพัก เอาเถอะ จะให้แม่นั่นนอนต่อไปก็ได้ วันนี้ผมไปทำงานต่อดีกว่า
ผมจ่ายเงินให้พนักงานโรงแรมก่อนจะเดินออกไปที่รถ คิดๆดูก็ประหลาดใจที่ไม่โดนตำรวจจับข้อหาเมาเหล้าขับรถ แต่พอผมลองนับเงินในกระเป๋าที่ว่างเปล่าของตัวเองดูก็เข้าใจ
"แข็งกว่าเหล็กเงินง้าง อ่อนได้ดังใจ"
ผมชอบคำนี้เป็นบ้า เป็นโคลงบาทเดียวที่ผมจำได้ตอนเรียนม.ต้น เพราะผมรู้ว่าถึงไงก็เป็นความจริง มีเงินก็มีเหล้า มีผู้หญิง มีอำนาจ
ผมมองต้นไม้ยักษ์อย่างเซ็งๆ วันๆไม่ทำอะไรมีแต่ส่งเสียงใบไม้เสียดสีน่ารำคาญ แถมยังบังแดดไปเกือบหมดอีก แทนที่จะรู้ได้ว่าเป็นกลางวันหรือกลางคืนกลับมีแต่ความมืดเท่านั้น มันน่าให้คนมาตัดไปให้เหี้ยนซะที เอาไม้ไปขายน่าจะได้ราคา
ผมขับรถเลียบไปตามลำน้ำสีน้ำตาลขุ่นคลั่กจากตะกอน ภาพเรือลากสินค้าแล่นไปมาในลำน้ำเป็นภาพที่ผมเห็นจนชินตาเสียแล้ว เว้นเสียแต่อย่างหนึ่ง
ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังตกปลาในแม่น้ำด้วยเบ็ดที่ทำจากไม้ผูกเชือกเอ็นธรรมดา ๆ คันเบ็ดของเขาเก่าคร่ำคร่าคล้ายไม้ผุกิ่งหนึ่ง ชายคนนั้นตวัดเบ็ดขึ้น ปลาตัวน้อยติดเบ็ดกระโจนขึ้นจากน้ำ เขารีบคว้ามันเอาไว้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
น่าขำ ปลาตัวเดียวทำเป็นได้เงินล้านไปได้ ผมแสนจะหน่ายกับพวกคนจนแบบนี้ รกโลกที่สุด
ผมขับรถผ่านชายคนนั้นไปเหมือนกับไม่เคยมีชายตกปลามาก่อน
ตั้งแต่วันนั้น ทุกๆครั้งที่ผมผ่านแม่น้ำสายนี้ ผมก็เห็นชายตกปลามาตกปลาอยู่เสมอ น่าแปลกที่คนไม่เคยแยแสคนจนแบบผมกลับสนใจชายตกปลาคนนั้นอย่างน่าประหลาด ทำไมเขาถึงได้ตกปลาตัวน้อยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มถึงขนาดนี้
ในที่สุดผมก็ทนเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้ วันนี้ผมจึงจอดรถแล้วเข้าไปถามเขาเสียที
"นี่ลุง ทำไมลุงมาตกปลาอยู่นี่"
"ผมไม่ใช่ลุงนะ" ที่แท้เขาก็อายุพอๆกับผม
"ช่างเถอะน่า ทำไมมาตกปลาล่ะ"
"หาของกิน"
ผมอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ มีคนที่โง่ถึงขนาดไม่ทำงานหาเงินวันๆเอาแต่ตกปลากตัวกระจ้อยร่อยกินด้วยหรือนี่
ผมควักแบงก์สีเทาให้ชายตกปลาหวังจะให้เอาไปซื้อข้าวปลากินซะ จะได้ไม่ต้องมานั่งตกปลาแบบนี้
"เอ้า ไปซื้อข้าวกินซะ"
น่าแปลกที่เขากลับมองหน้าผมด้วยสีหน้างุนงง
"กระดาษนี่อะไร"
คราวนี้ผมกลับตกตะลึง ไอ้หมอนี่มันโง่ขนาดนี้เลยรึไง
"อย่าบอกนะว่าไม่รู้จักแบงก์ บ้ารึเปล่า"
"กระดาษแบบนี้ไม่เห็นมีคุณค่าตรงไหนเลย แผ่นก็เล็กไปใช้บังฝนไม่ได้ จะเอาเป็นเหยื่อตกปลาก็ไม่ได้ ใช้เป็นเสื้อผ้าก็ไม่ได้"
ชายคนนั้นตกปลาตัวน้อยขึ้นมา ปล่อยให้ผมงุนงงกับคำพูดที่แสนแปลกประหลาดของเขา
"ไม่รู้จักจริงๆเหรอ เงินน่ะเงิน มีเงินก็สามารถซื้อได้ทุกอย่างเลยนะ อยากได้อะไรก็ได้ มีความสุขจะตายไป"
คำตอบของชายตกปลาคนนั้นกลับทำให้ผมงุนงงยิ่งกว่า
"ขอแค่ผมตกปลาอยู่ตรงนี้ก็มีความสุขมากพอแล้ว จะไขว่คว้าอะไรมากมาย"
เมื่อวันที่ : 07 ส.ค. 2549, 23.21 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...