![]() |
![]() |
Anantra![]() |
...ทำไมนะหัวใจของคนเรามันถึงได้ชอบเล่นตลก ทำไมถึงไม่มีแค่ใจเดียว ถ้าเป็นเช่นนั้นได้ โลกก็คงจะสดใสสวยงาม ทุกคนก็คงจะมีแต่ความสุข และคงจะไม่มีใครต้องเสียใจ...
จอยยังคงหลับสนิท ดีแล้วเพราะคุณหมอก็บอกว่าอยากให้คนไข้ได้พักผ่อนมาก ๆ ฉันเฝ้าแต่ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อตะกี้ สาเหตุที่ทำให้จอยต้องคิดสั้น ไม่อยากจะคิดเลยว่าน้อตเป็นต้นเหตุ
ทั้งจอยและน้อต เขาทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทของฉัน คบกันมาตั้งแต่ชั้นมัธยม ฉันย่อมจะรู้นิสัยของทั้งคู่เป็นอย่างดี
จอยอาจจะดูเอาแต่ใจตัวเองไปบ้าง อารมณ์ร้อนเป็นบางครั้ง แต่เธอก็เป็นคนจริงใจ ไม่เสแสร้ง และมีน้ำใจกับเพื่อนมาก
ส่วนน้อต เป็นคนใจเย็น ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกมากนัก ถ้าสิ่งนั้นมันไม่เหลือบ่ากว่าแรงของเขาจริง ๆ และเขาก็เป็นเพื่อนที่ดีมาตลอด เป็นห่วงเป็นใยเพื่อนเสมอ
ที่สำคัญเขาทั้งคู่ก็รู้จักกันมานาน น่าจะเข้าใจนิสัยซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้
ฉันร้อนใจ อยากจะรู้จริง ๆ เลยว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่อยากมานั่งเดาเอาเองแบบนี้
5ทุ่มครึ่งแล้ว ฉันยังไม่ได้โทรศัพท์ไปบอกที่บ้าน พวกเขาคงจะเป็นห่วงกันแล้ว อีกอย่างโทรศัพท์ของฉันก็แบตเตอรี่หมดพอดี โชคดีนะที่เพิ่งมาหมดเอาตอนนี้ ไม่งั้นคงแย่แน่ ๆ
ฉันใช้โทรศัพท์ในห้องโทรไปบอกที่บ้านว่าวันนี้ฉันคงไม่กลับ จะอยู่เฝ้าจอยที่โรงพยาบาล ทุกคนตกใจถามกันใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันไม่ได้บอกอะไรมาก บอกแต่เพียงว่าจอยไม่สบายต้องอยู่โรงพยาบาล
ไม่รู้ว่าอ้นจะหาน้อตเจอหรือเปล่า ตอนนี้ฉันอยากเจอน้อตมากที่สุด อยากจะรู้เรื่องราวว่ามันเป็นยังไงมายังไง ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ เขาต้องเป็นคนที่รู้ดีที่สุดอย่างแน่นอน
"อร.." มีคนเรียกฉันเบา ๆ ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา ฉันคงเผลอหลับไป
"พี่หนึ่ง มาได้ไงคะเนี่ย" ฉันถามอย่างแปลกใจ
"พี่โทรไปที่บ้านอรมาน่ะ คุณแม่บอกว่าอรอยู่กับจอยที่นี่ พี่เป็นห่วงก็เลยรีบมา" พี่หนึ่งบอก
"จอยเขาเป็นอะไร ไม่สบายมากรึเปล่า แล้วเจ้าน้อตล่ะ" พี่หนึ่งถามอีก
ฉันส่ายหน้า ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้อตอยู่ที่ไหน และฉันก็ไม่รู้จะเริ่มเล่าเรื่องให้พี่หนึ่งฟังยังไง
สักพักอ้นเปิดประตูเข้ามาพอดี แน่นอนเขามาพร้อมกับน้อต
อ้นมีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยที่เจอพี่หนึ่ง แต่เขาก็ยังทักทายเหมือนปกติ
น้อตดูซึมเศร้า ฉันได้กลิ่นเหล้าจากตัวเขา เขาเดินเข้าไปยืนข้างเตียงของจอย เขาร้องไห้ ฉันไม่เคยเห็นสภาพน้อตที่เป็นแบบนี้มาก่อน
ฉันรู้สึกโกรธน้อตมาก อยากจะถามเขาเหลือเกินว่าทำไมจอยถึงต้องเป็นแบบนี้ แต่อ้นดึงมือฉันไว้ไม่ให้ไปรบกวนเขาตอนนี้ ฉันเข้าใจในทันที ถึงยังไงน้อตก็เป็นเพื่อนรักของฉันคนหนึ่ง และคนที่น่าจะเสียใจที่สุดก็คือเขา
พวกเรานั่งกันอยู่อย่างนั้น ปราศจากคำพูดใด ๆ
สักพักอ้นขอตัวกลับก่อน ฉันอาสาที่จะเดินลงไปส่งเขา พี่หนึ่งมีสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ขัดอะไร
"วันนี้ขอบคุณมากเลยนะคะ ถ้าไม่ได้อ้น อรคงจะแย่แน่ ๆ" ฉันพูดขึ้นมา
อ้นยิ้มน้อย ๆ ให้กับฉัน
"แล้วอ้นไปเจอน้อตที่ไหนหรือคะ" ฉันถาม
"พอดีอ้นไปบ้านเจ้าเหน่ง(เพื่อนสนิทน้อต) แล้วมันบอกว่าให้ลองไปที่ร้านนี้ดู ก็เลยเจอน้อตที่นั่น" เขาบอก
"น้อตนี่เหลวไหลจริง ๆ เลย แบบนี้ต้องต่อว่าซะหน่อยแล้ว" ฉันพูดอย่างโมโห
อ้นไม่พูดอะไร เขาดูเงียบ ๆ ตั้งแต่ตอนที่กลับมาแล้ว
"อ้น เป็นอะไรรึเปล่าคะ ดูเงียบ ๆ ไปนะ" ฉันถามเขา
แต่อ้นก็ส่ายหน้า เขายังคงเงียบงัน
ฉันเดินมาส่งเขาถึงหน้าประตูทางออก ด้านหลัง ลานจอดรถ
"กลับดี ๆ นะคะ" ฉันบอกเขา พร้อมกับโบกมือลา
ยังไม่ทันที่ฉันจะหันหลังกลับ อ้นก็รวบตัวฉันเข้าไปกอด
ฉันยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ทำไมฉันถึงปล่อยให้เขากอด ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
"ผมขอโทษ แต่ผมทนไม่ได้ที่เห็นอรอยู่กับคนนั้น" เขาพูดออกมา
ฉันไม่พูดอะไร ที่แท้ที่เขาเงียบไปก็เพราะพี่หนึ่งนั่นเอง
"ผมขอถามอะไรอรอย่างหนึ่งได้ไม๊"
ฉันมองหน้าเขาอย่างสงสัยว่าเขาจะถามอะไร
"อร รัก เขาคนนั้นหรือเปล่า" อ้นถามฉัน
ฉันได้แต่เงียบ ยืนก้มหน้า ไม่กล้าสบตาเขา ฉันจะตอบเขาว่ายังไง รัก หรือ ไม่รัก ฉันไม่รู้ แต่พี่หนึ่งก็ดีกับฉันมาก และฉันก็ไม่ได้รังเกียจที่จะอยู่ใกล้เขา ฉันยังสับสน มันยังตอบไม่ได้ แล้วไหนจะเรื่องคู่หมั้นของเขาอีก
"อรไม่ตอบก็ไม่เป็นไร อรคงจะลำบากใจ ผมรู้ แต่ผมอยากจะบอกอรอีกสักครั้งว่าถึงยังไง อ้นก็ยังรักอร และจะรักอรตลอดไป" เขาบอกฉันเสียงหนักแน่น
เขาไปแล้ว แต่ฉันยังยืนอยู่ตรงนั้น คำที่เขาบอกรักฉันยังคงก้องอยู่ ฉันสับสนเหลือเกินว่าฉันรักใคร และใครที่ฉันควรจะรัก
"อร" พี่หนึ่งเรียกฉันมาแต่ไกล
"มายืนทำอะไรตรงนี้ ดูสิ หน้าซีดเชียว ไม่สบายรึเปล่า" พี่หนึ่งถามฉันอย่างเป็นห่วง
พี่หนึ่งดีกับฉันเสมอ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เขาก็ยังคงเป็นพี่หนึ่งที่อบอุ่น อ่อนโยน เป็นห่วงเป็นใย แต่ฉันก็ยังไม่มั่นใจในหัวใจของตนเอง อาจจะเป็นเพราะว่าอดีตที่เจ็บปวดของฉันทำให้ฉันไม่กล้าที่จะเปิดใจให้กับรักครั้งใหม่ หรืออย่างไรฉันก็ไม่สามารถบอกได้
"อร ไม่เป็นไรค่ะ จอยกับน้อตเป็นไงบ้างคะ" ฉันถาม
"จอยยังหลับอยู่ ส่วนเจ้าน้อตก็ได้แต่นั่งเงียบ ไม่พูดไม่จา นี่มันเรื่องอะไรกันเหรออร" พี่หนึ่งถาม
ฉันขึ้นไปที่ห้อง น้อตยังอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับไปไหน
"น้อต อรขอคุยอะไรหน่อยสิ" ฉันเรียกเขา พร้อมกับเดินออกมานอกห้อง
น้อตเดินตามออกมาอย่างว่าง่าย
"มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจอยถึงต้องทำแบบนี้" ฉันถามเขาทันที
"น้อตขอโทษ น้อตผิดเอง" เขาพูด
"มันเรื่องอะไรกัน บอกอรได้ไม๊" ฉันถาม
"น้อตขอเลิกกับจอย น้อตรู้ว่ามันผิด แต่น้อตไม่อยากฝืนใจตัวเอง" น้อตก้มหน้า
"อะไรนะ นี่น้อตพูดอย่างนี้ได้ยังไง หา แล้วจอยล่ะ นึกถึงจอยบ้างไหม" ฉันพูดเสียงดังด้วยความโมโห
"น้อตรู้ว่ามันผิด แต่น้อตไม่ได้รักจอยแล้ว น้อตรักคนอื่น น้อตเสียใจ น้อตขอโทษ" เขาพูดทั้งน้ำตา
ฉันตบหน้าน้อตฉาดใหญ่ พี่หนึ่งรีบวิ่งออกมาห้าม เขาดึงฉันไว้ เขาคงไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงทำแบบนี้ เขาคงยังไม่รู้เรื่องราว
"เห็นแก่ตัว พูดง่าย ๆ นี่ ทำไมน้อต ทำไม อรไม่เข้าใจ" ฉันร้องไห้
"ผมขอโทษ ผมขอโทษ" น้อตพูดได้อยู่คำเดียว พูดอยู่แค่นั้น
ฉันเสียใจมากที่ได้ยินแบบนั้น ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันสงสารจอยเพื่อนรักมาก เธอไม่เคยมีความรักมาก่อน น้อตเป็นรักครั้งแรกของเธอ เธอคงจะเจ็บปวด และทรมานมาก
คนที่ไม่เคยผิดหวังในเรื่องของความรักมาก่อนอย่างจอย ย่อมจะไม่มีภูมิต้านทาน ที่หนักกว่านั้นก็คือ พวกเขาแต่งงานกันแล้ว จอยคงจะแน่ใจแล้วว่ามันคงเป็นความรักที่ยั่งยืนตลอดไป เธอคงไม่เคยคิด หรือคิดไม่ถึงว่าชีวิตแต่งงานของเธอจะต้องกลายเป็นแบบนี้ ทั้งที่มันเพิ่งจะผ่านมาได้ไม่นาน
ทำไมเหตุการณ์แบบนี้ถึงไม่เกิดขึ้นกับฉันแทน ถ้าเป็นฉันคงจะอดทนได้มากกว่าเธอ
ความรักหนอความรัก ทำไมมันถึงได้เจ็บปวดแบบนี้ ไม่มีสิ่งไหนที่จะสามารถรับประกันได้เลยว่าความรักจะยั่งยืนตลอดไป แม้แต่งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ หรือ ระยะเวลาที่คบกันมานาน
"แล้วน้อตจะทำยังไงต่อไป" ฉันถามหลังจากที่สงบสติอารมณ์ได้แล้ว
น้อตส่ายหน้าไม่ตอบ เขาก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไงต่อไป เขาได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น เขาก็คงจะเสียใจไม่แพ้กัน ทำไมนะหัวใจของคนเรามันถึงได้ชอบเล่นตลก ทำไมถึงไม่มีแค่ใจเดียว ถ้าเป็นเช่นนั้นได้ โลกก็คงจะสดใสสวยงาม ทุกคนก็คงจะมีแต่ความสุข และคงจะไม่มีใครต้องเสียใจ
จะว่าไปฉันก็สงสารน้อตเหมือนกัน ฉันเข้าใจว่าความรักมันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา แต่ครั้งนี้เขาเป็นคนผิด ผิดที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ เพราะเขาไม่ได้ตัวคนเดียว เขาแต่งงานแล้ว
"เลิกได้ไหมน้อต เลิกกับผู้หญิงคนนั้น แล้วกลับมาหาจอย" ฉันบอกเขา
มันเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และไม่มีใครเสียประโยชน์ จอยก็ไม่ต้องกลายเป็นม่าย น้อตก็จะไม่ต้องกลายเป็นคนผิด และผู้หญิงคนนั้นก็จะได้ไม่ขึ้นชื่อว่าแย่งสามีของใคร
น้อตเงยหน้ามองฉัน เขาคงไม่คิดว่าฉันจะพูดแบบนี้
"อรพูดจริง ๆ นะ มันจะดีกับทุกฝ่าย เชื่ออรสักครั้ง" ฉันบอกเสียงหนักแน่น
น้อตก้มหน้าอีก แต่เขาก็พยักหน้าตอบรับในสิ่งที่ฉันบอกเขา
"น้อตจะพยายาม" เขาพูดสะอึกสะอื้น
ฉันดีใจมาก เข้าไปกอดน้อต เราสองคนกอดกันแน่น น้อตยังคงร้องไห้
"ดีแล้วน้อต ดีแล้ว และทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง" ฉันบอกเขาทั้งน้ำตา
เมื่อวันที่ : 22 มิ.ย. 2549, 09.00 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...