![]() |
![]() |
เรไร![]() |
![]() กลาดหาดทรายเหม่องมองจ้องเกลียวคลื่น ในค่ำคืนไร้ดาวบนราวฟ้า ถูกบดบังด้วยแสงแห่งจันทรา พสุธาดูสว่างดั่งกลางวัน มีแค่เพียงคลื่นโถมโหมเข้าฝั่ง ยินเสียงดังซัดสาดหาดสวรรค์ เพราะคืนนี้มีเราใต้เงาจันทร์ สองเรานั้นเกี่ยวก้อยร้อยรวมใจ เจ้างดงามพิสุทธิ์ดุจอัปสร อรชรงามแท้กว่าแขไข ยิ่งกว่าดวงดาราบนฟ้าไกล ดั่งนางในดุสิตาลงมาดิน กี่อนงค์นางไหนเคยใกล้ชิด ในดวงจิตมิหวนชวนถวิล แต่กับเจ้าเฝ้าเพ้อเผลอชีวิน มิเคยสิ้นปรารถนาทุกราตรี โอ้อกเอ๋ยร้อนเร่าเจ้าอกเอ๋ย ยามชิดเชยกายเบียดถูกเสียดสี ดังล่องลอยสู่แคว้นแดนฉิมพลี ค่ำคืนนี้สองเราพะเน้าพะนอ อัศจรรย์คลื่นลมโถมกระหน่ำ จิตระสำพร่ำเพรียกร้องเรียกขอ เหมือนสำเภาตั้งกระโดงโยงใบรอ จักแล่นต่อพอลมดีจึงรี่ไป ผ่านโขดหินโฉบเฉี่ยวคอยเลี้ยวเลาะ เฉียดข้างเกาะผ่านน้ำตื้นก็ลื่นไหล สำเภาเลยเกยหินแทบสิ้นใจ คลื่นซัดใส่โยกโยนโจนทะยาน สู่ห้วงแห่งสายชลวังวนน้ำ ลมกระหน่ำคลื่นถมผสมผสาน จึงดำดิ่งอับปางกลางสายธาร สั่นสะท้านหวามไหวใต้แสงจันทร์ จนดวงเดือนลาลับกับขอบฟ้า รุ่งอุษาส่องสว่างกระจ่างฝัน สบสายตาแทนถ้อยร้อยรำพัน ขอเคียงคู่จอมขวัญนิรันดร ![]() |
เมื่อวันที่ : 02 มี.ค. 2549, 22.35 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...