![]() |
![]() |
โดโรที![]() |


จากที่ทำการทดลองมาตลอดวัน การสนทนาต้องจบลง เมือหญิงสูงอายุคนหนึ่งซึ่งเรา
คุ้นเคยกับเธอมาเป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือนเศษกำลังยืนเคาะประตูอยู่หน้าห้องพักที่
มหาวิทยาลัย เราลุกขึ้นและเดินยิ้มแย้มไปหาเธอด้วยไมตรีจิต แต่ใบหน้าเธอนั้น
ประกอบกับรอยริ้วที่ดวงตาดูเหมือนว่ามีอารมณ์โกรธและเศร้าคละเคล้ากันไป เกิดอะไร
ขึ้นกับเธอ?????? เราคิดอยู่ในใจ เมื่อประตูถูกเปิดออกการสนทนาระหว่างเราและเธอ
เริ่มขึ้น ประโยคแรกที่ออกมาจากปากเธอคือ "เธอเอาเงินฉันไป" รอยยิ้มที่ระรื่นอยู่บน
หน้าเรากระเด็นหายไปอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิภายในร่างกายพุ่งขึ้นมาแทนที่
ความรู้สึกตอนนั้นรู้สึกโกรธอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แต่เราต้องควบคุมอารมณ์ ควบคุม
สีหน้าไม่ให้เกรี้ยวกราดตามอารมณ์ที่กำลังใกล้เดือด เราถามเธอกลับไปว่าเกิดอะไรขึ้น
เธอบอกว่า "เงินฉันหายไปและฉันต้องการค้นกระเป๋าเธอ" เราพาเธอมาที่โต๊ะพร้อมหยิบ
เป้งามจากเนปาลให้เธอค้น ระหว่างนั้นเพื่อนๆใน office ต่างงุนงงว่ายายคนนี้มาจุ้นจ้าน
ค้นกระเป๋าเราทำไม เธอลงมือค้นอย่างไม่สนใจใครเราก็ได้แต่ยืนดูด้วยความสงบ
เสงี่ยม แล้วเธอก็ไม่เจออะไร เธอเดินออกจากห้องไปโดยมีเราเดินตามเธอไป เมื่อพ้น
จากห้องแล้วเธอมาบอกเราว่าเราต้องเอาเงินเธอไปซ่อนไว้ที่ไหนสักแห่ง เอาล่ะสิเธอคน
นี้เริ่มมามั่วกับเราแล้ว เธอบอกว่าเธอมั่นใจว่าเราเอาเงินเธอไป เราชวนเธอไปหา
security ของมหาวิทยาลัย แต่เธอไม่ไป พร้อมทั้งหันมาสะบัดหน้าใส่กับคำพูดแย่ๆให้
เราก่อนเดินจากไป เราเลยไปติดต่อคนเดียวพร้อมทั้งให้ security มาเช็คกล้อง
โทรทัศน์ แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีกล้องอยู่ทีห้องแลปนั้น...................................

ว่าให้ยายนั่นมารื้อกระเป๋าได้อย่างไร ที่ออสเตรเลียถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
และเป็นการละเมิดสิทธิ โธ่ แล้วเราจะรู้ไหมเนี่ย David เรียกกลุ่มเพื่อนใน office มา
ปรึกษาหารือเรื่องปัญหาของเราหลังจากที่เราเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง Benjamine รีบถาม
ทันทีว่าเงินที่หายไปมันจำนวนเท่าไหร่ เราตอบไปว่า 30 bucks Rainer ถึงกับขำก๊าก
บอกว่า Shit David ส่ายหัวแล้วบอกว่าถ้าเป็น 1000 $ จะไม่ว่าอะไรเลย Benjamine
นั่งหัวเราะแล้วบอกว่าไม่ต้องไปสนใจ แต่เราไม่ขำกับพวกเขาด้วยน่ะสิ เกิดมาไม่เคยถูก
ใครมาดูถูกและกล่าวหาว่าเป็นขโมยเลย แถมมาอยู่ต่างถิ่นแบบนี้อีก สุดท้ายเพื่อนๆ
บอกว่าให้มารายงานเรื่องทั้งหมดให้ supervisor ฟังในวันรุ่งขั้นเพราะตอนนี้ที่ office ก็มี
แต่เพื่อนๆอยู่อาจารย์กลับกันหมดแล้ว เรากับเพื่อนๆ ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
เรากลับมาบ้านด้วยอาการเซ็งสุดขีด ทำไมมันเราต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย พรุ่งนี้ก็วาง
แผนที่จะต้องทำแลปต่อ แต่เพื่อนๆบอกให้หยุดเข้าไปในห้องนั้นก่อนจนกว่าเรื่อง
ทุกอย่างจะจัดการเรียบร้อย เราก็เลยกังวลเรื่องงานมากๆที่มันต้องล่าช้าไปอีกเพราะไม่รู้
เมื่อไหร่เรื่องนี้มันจะถูกจัดการ จะโทรกลับบ้านก็กลัวพ่อแม่จะไม่สบายใจ คืนนั้นทั้งคืน
ก็นอนหน้าแฉะไปกับน้ำตาจนม่อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว .................................................
ส่วนจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนั้นรออ่านในตอนข้างหน้าค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
เมื่อวันที่ : 15 ต.ค. 2548, 13.05 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...