![]() |
![]() |
โดโรที![]() |
หลังจากจบเรื่องการเรียนไปแล้ว ลองมาดูกันบ้างว่าเหล่านักเรียนทั้งหลายที่มาอยู่แดน
จิงโจ้นี้สามารถทำงานกันได้อย่างไรบ้าง ว่ากันด้วยตามกฎหมายแล้วผู้ที่มี visa นักเรียน
เมื่อมาถึงประเทศนี้แล้วควรไปที่ immigration office เพื่อไปขอ work permit ราย
ละเอียดต่างๆ เข้าไปศึกษากันที่นี่ได้เลยค่ะ
www.immi.gov.au/e_visa/index.htm

เพื่อที่จะได้รับค่าแรงที่มากกว่าการทำงานในร้านอาหารไทย ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วการทำ
งานในร้านอาหารไทยจะได้ประมาณชั่วโมงละ 7- 8 $Aus แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเวลาในการทำ
งานในร้านอาหารไทยมักจะคิดเป็นกะ คือกะกลางวันกับกะกลางคืนและเวลาเลิกงานอาจ
ไม่แน่นอน แต่ละร้านก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อยต่างกันไป ตอนที่เราทำงานที่ร้าน
อาหารไทยเราเข้างาน 16.30 น. เลิกประมาณ 4 ทุมครึ่งจนถึง 5 ทุมครึ่งหรือบางคืนก็
เที่ยงคืน แต่ค่าแรงที่ได้ก็ 50 $Aus จะเลิกเร็วหรือเลิกช้ากว่าปกติก็ 50$Aus ต่อกะ แต่
เราก็ได้อาหารฟรีหนึ่งมื้อ บางวันก็มีติดไม้ติดมือเอากลับไปบ้านบ้าง และได้ค่าทิปเฉี่ลย
คืนละ 5-10 $Aus แล้วแต่ความกรุณาของลูกค้า อันนี้คือร้านที่เราไปทำส่วนร้านอื่นๆเรา
ไม่ทราบรายละเอียดมาก


ตั้งใจจริง เราก็เป็นหนึ่งคนที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นลูกจ้าง Aussie กับเขาเหมือนกัน
เพราะเราอยากได้ค่าแรงตามระบบของที่นี่ ที่สำคัญนอกจากเรื่องค่าแรงแล้วเราอยากรู้
ว่าการทำงานในองค์กรต่างชาติระบบมันแตกต่างจากบ้านเราที่ไทยอย่างไร เราเอง
ติดตามข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับงาน ทางหน้าหนังสือพิมพ์และทาง internet เสมอ เราก็
ลองสมัครงานที่เราคิดว่าเราสามารถทำได้ คนที่มา Sydney เราขอแนะนำให้ไปดูงาน
ตาม website เหล่านี้ :
www.seek.com.au www.mycareer.com.au www.jobmap.com.au
เพราะเราก็ได้งานมาจากการสมัครผ่าน website



ต้องใช้สิทธิ์อันนี้ให้เต็มที่ เมื่อเราเริ่มสมัครงานการสัมภาษณ์ก็เริ่มเกิดขึ้น งานแรกที่ถูก
เรียกไปสัมภาษณ์คือ Q.C. ใน line ผลิตของโรงงานอาหาร เราตื่นเต้นมากที่ได้เรียก
สัมภาษณ์งานนี้เพราะใฝ่ฝันอยากเป็นสาวโรงงานที่ Sydney บ้าง แต่ก็ต้องชวดไปเพราะ
ไม่ได้รับการอนุมัติให้ไปสัมภาษณ์จากคนที่ดูแลเรา เนื่องมาจากโรงงานที่ว่ามันอยู่ไกล
เหลือเกิน ถึงได้งานก็ไม่สามารถไปทำได้ เราก็นึกสียดายอยู่ในใจเพราะลึกๆของก้นบึ้ง
ในใจแล้วอยากลองไปสัมภาษณ์ งานต่อมาที่ถูกเรียกไปสัมภาษณ์ก็คืองาน childcare
worker การแต่งตัวไปสัมภาษณ์ก็สุภาพแต่ก็ไม่ต้องถึงกับสมบูรณ์แบบเพราะมันไม่ใช่
งาน office เมื่อไปถึงการสัมภาษณ์ก็เริ่มขึ้นโดยมีคำถามต่างๆ เกี่ยวกับประสบการณ์ของ
เราทางด้านการทำงานร่วมกับเด็ก เราเองสมัยเรียนอยู่ที่ไทยก็มีอาชีพสอนพิเศษเด็ก
ตามบ้าน และที่โรงเรียนกวดวิชา ก็เลยผ่านคำถามข้อนี้ไปได้ฉลุย หลังจากนั้นก็เป็นคำ
ถามต่างๆเกี่ยวกับเด็ก เช่น
-

-

-

-

-

-


break ด้วยนะ เรียกว่าอิ่มพุงกาง เวลาที่หยุดพักก็จ่ายค่าแรงให้ไม่ได้นำมาหักออกซึ่ง
เรียกว่าดีจริงๆ เด็กที่เราไปเจอวันแรกอายุ 1- 3 ขวบและ 3 -- 5 ขวบ น่ารักมากมีหลาย
เชื้อชาติ เพราะที่นี่เป็น multinational country แถมพูดอังกฤษเก่งกว่าเราอีกแฮะ เราก็
คุยๆอือออกันไปเล่นกับพวกเขาไปสนุกมาก บางทีพูดออกสำเนียงไม่ถูกมาสอนเราอีก
โชคดีได้ครูตัวน้อยมาฝึกให้ไม่ต้องไปเสียตังค์เรียนเพิ่ม งานหลักๆก็ไม่มีอะไรก็เล่นกับ
เด็ก ได้ใช้ภาษา กล่อมเด็กนอน ช่วยทำความสะอาดเล็กๆน้อย เรียกว่าเป็นงานที่ดีมาก
เงินดี งานไม่หนัก ได้ใช้ภาษา เราถูกส่งไปตามศูนย์ต่างๆ แต่ไม่เจอพนักงานคนไทยมา
ทำงานนี้เลย บางศูนย์ก็มีแต่เรานี่แหละหัวดำอยู่คนเดียวที่เหลือหัวทองหมด แต่ก็ภูมิใจที่
ครั้งหนึ่งได้เข้าไปทำพร้อมกับเด็ก Aussie แล้วการประเมินออกมาว่าเราดีกว่า วันนั้นยิ้ม
แก้มปริ อยู่กับเด็กๆอยากบอกว่ามีความสุขมากๆ พวกเขาน่ารัก ยิ่งเห็นเด็กเอเชียกับ
เด็ก Aussie เล่นด้วยกันยิ่งมีความสุข มันเหมือนกับว่าพวกเขาไม่ได้มีความรังเกียจใน
ด้านความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ ซึ่งในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้าความเท่าเทียมกันก็
คงจะมีเพิ่มขึ้น ความแบ่งแยกก็คงจะลดลง แต่ก็มีเด็กเอเชียบางคนที่ไม่สามารถเข้ากลุ่ม
ได้ เขาก็มักจะมาหาเรา ซึ่งเราก็ต้องพยายามพาเขาไปร่วมกลุ่มให้ได้เพื่อที่เขาจะได้ไม่
โดดเดี่ยว นึกแล้วก็คิดถึงเด็กๆเหลือเกิน ขอไปนอนฝันถึงเด็กๆที่น่ารักก่อนแล้วจะมาโม้
ต่อเรื่องงานในตอนต่อไป................
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
เมื่อวันที่ : 14 มิ.ย. 2548, 22.28 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...